แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของที่ดิน เชิดให้มารดาภริยา แสดงเป็นตัวแทน หรือรู้แล้วยอมให้มารดา ภริยา แสดงเป็นตัวแทน ทำสัญญา
ให้ผู้อื่นเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย นั้น เจ้าของที่ดินย่อมต้องผูกพันตามสัญญาเช่าที่มารดาภริยาทำไว้กับผู้เช่า
ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้สุจริตเสมือนหนึ่งมารดาภริยาเป็นตัวแทนของเจ้าของที่ดิน ฉะนั้นผู้ซื้อที่ดินนั้นไปจากเจ้า
ของ จึงต้องรับโอนสิทธิและหน้าที่ในสัญญาเช่าติดตามไปด้วย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย ให้รื้อเรือนออกจากที่ดินของโจทก์ ซึ่งซื้อมาจากพระยาสุพรรณสมบัติ
จำเลยต่อสู้ว่า เช่าที่ปลูกเรือนจากเจ้าของเดิม ย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่า จำเลยเช่าที่พิพาทจากคุณหญิงเครื่อง มารดาภริยาพระยาสุพรรณสมบัติ โดยพระยาสุพรรณสมบัติมิได้มอบหมาย จึงไม่ผูกพันพระยาสุพรรณสมบัติ พิพากษาให้จำเลยรื้อเรือนออกไปจากที่พิพาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า กรณีเข้าตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๘๒๑ เรื่องตัวแทน พระยาสุพรรณสมบัติต้องผูกพันตามสัญญาเช่า โจทก์ผู้รับโอน ย่อมต้องรับโอนสิทธิการเช่าติดตามมาด้วย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทกฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้พระยาสุพรรณสมบัติ ได้เชิดคุณหญิงเครื่องให้แสดงเป็นตัวแทน หรือรู้แล้วยอมให้คุณหญิงเครื่องแสดงเป็นตัวแทน พระยาสุพรรณสมบัติจึงต้องผูกพันตามสัญญาเช่าที่คุณหญิงเครื่องเป็นตัวแทนของพระยาสุพรรณสมบัติ โจทก์ผู้รับโอนที่ดินนี้มา ยอ่มต้องรับโอนสิทธิการเช่าของจำเลยติดมาด้วย จะถือว่าจำเลยอยู่โดยไม่มีอำนาจหาได้ไม่.
จึงพิพากษายืน.