แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คู่ความโต้แย้งกันในเรื่องกำหนดหน้าที่นำสืบไว้ในรายงานพิจารณาของศาล แต่เมื่อศาลสั่งให้โจทก์นำสืบก่อนแล้ว โจทก์มิได้โต้แย้งคำสั่งศาลประการใดนั้น เป็นคำโต้แย้งระหว่างคู่ความ ไม่ใช่โต้แย้งคำสั่งศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) จะอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
สัญญาซื้อขายโรงเลื่อยซึ่งมีบัญชีสิ่งของแนบท้ายสัญญาและในตอนท้ายบัญชีมีข้อความว่า ‘เครื่องอะไหล่ที่ไม่แจ้งในบัญชีมีเล็กน้อยเมื่อรับโอนแล้วยังมีเหลือเท่าใดผู้ขายจะมอบให้’ ดังนี้ การที่จำเลยนำสืบว่าสิ่งของตามที่โจทก์ฟ้องเป็นเครื่องอะไหล่เล็กน้อยตามข้อความในตอนท้ายบัญชีนั้นเป็นเรื่องสืบอธิบายข้อความในสัญญา ไม่ใช่เป็นเรื่องสืบแก้ไขเอกสาร
ย่อยาว
ได้ความว่า โจทก์ขายโรงเลื่อยจักรให้จำเลยเป็นราคา 18,000 บาทตามหนังสือสัญญาซื้อขายรายนี้มีบัญชีรายชื่อส่งของต่อท้ายสัญญาและมีข้อความตอนท้ายบัญชีว่า “เครื่องอาหลั่ยที่ไม่แจ้งในบัญชีนี้มีเล็กน้อย เมื่อรับโอนแล้วยังมีเหลือเท่าใดผู้ขายจะมอบให้” จำเลยได้ชำระราคาเสร็จสิ้นแล้วจึงทำการขนไป การขนนี้จำเลยได้ทำใบรับให้โจทก์ยึดถือไว้ทุกคราว ในที่สุดเกิดโต้เถียงกันขึ้นสำหรับใบรับ 3 ฉบับ คือ เอกสารหมาย ก.ข.ค. ซึ่งโจทก์ว่าจำเลยซื้อต่างหากจากสัญญาซื้อขายโรงเลื่อย จำเลยต่อสู้ว่าเป็นสิ่งของที่โจทก์ได้ขายให้แก่จำเลยตามสัญญาซื้อขายโรงเลื่อยซึ่งจำเลยได้ชำระราคาไปแล้ว
ศาลจังหวัดสุรินทร์ฟังว่า สิ่งของตามเอกสาร 3 ฉบับ โจทก์ได้ขายให้จำเลยตามสัญญาซื้อขายฯ ซึ่งจำเลยได้ชำระราคาไปแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ชี้ข้อกฎหมายซึ่งโจทก์คัดค้านว่าศาลชั้นต้นสั่งหน้าที่นำสืบผิดนั้น เห็นว่าโจทก์มิได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นไว้อย่างไร จึงไม่วินิจฉัย ส่วนที่โจทก์คัดค้านว่า จำเลยสับเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญานั้น เห็นว่า จำเลยสืบอธิบายข้อความสัญญาอยู่ในประเด็นข้อต่อสู้จึงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า (1). ตามที่โจทก์คัดค้านว่าที่ศาลอุทธรณ์ว่าโจทก์ มิได้โต้แย้งไว้ในศาลชั้นต้นนั้น ความจริงโจทก์โต้แย้งไว้แล้วตามรายงานพิจารณาของศาลลงวันที่ 14 มกราคม 2487 นั้น ข้อนี้ศาลฎีกาเห็นว่าตามรายงานนั้นเป็นคำโต้แย้งระหว่างคู่ความ เมื่อศาลสั่งให้โจทก์นำสืบก่อนแล้ว โจทก์มิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นประการใดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
(2) ที่โจทก์ฎีกาคัดค้านว่า ที่จำเลยนำสืบว่าสิ่งของที่โจทก์ฟ้องรวมอยู่ในสัญญาซื้อขายนั้น เป็นการสืบแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมสัญญา ขัดต่อมาตรา 94 นั้น ข้อนี้ศาลฎีกาเห็นว่าสัญญาซื้อขายโรงเลื่อยจักรมีบัญชีรายชื่อแนบท้ายสัญญา และท้ายบัญชีสิ่งของมีข้อความว่าเครื่องอาหลั่ยที่ไม่แจ้งในบัญชีนี้มีเล็กน้อย เมื่อรับโอนแล้วยังมีเหลือเท่าใด ผู้ขายจะมอบให้” นั้นการที่จำเลยนำสืบว่าสิ่งของตามที่โจทก์ฟ้องเป็นเครื่องอาหลั่ยเล็กน้อยตามข้อความในตอนท้ายบัญชี จึงไม่ใช่เรื่องสืบแก้ไขเอกสารดังโจทก์อ้าง
ส่วนข้อ 3 ที่โจทก์ฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงว่า สิ่งของที่โจทก์ฟ้องมิได้รวมอยู่ในสัญญาซื้อขายนั้น ศาลฎีกาเห็นชอบด้วยคำวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองว่าสิ่งของที่โจทก์ฟ้องนี้เป็นสิ่งของรวมอยู่ในสัญญาซื้อขายโรงเลื่อยนั้นเอง ฯลฯ จึงพิพากษายืน