แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ป.เป็นผู้ใหญ่บ้านที่จำเลยขอให้ช่วยสืบหาคนร้ายที่ลักกระบือของตน เมื่อ ป.นัดผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกบ้านให้มาเจรจากับจำเลย ย่อมมีมูลทำให้จำเลยเข้าใจว่าผู้เสียหายเป็นคนร้าย การที่จำเลยเรียกเงินจากผู้เสียหายเป็นค่ากระบือที่ถูกลักเอาไปเพื่อที่จะไม่ดำเนินคดีแก่ผู้เสียหาย โดยมี ป.ผู้ใหญ่บ้านฝ่ายผู้เสียหายเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยให้จนผู้เสียหายยอมให้เงินแก่จำเลยตามที่ ป.พูดไกล่เกลี่ยเป็นการใช้สิทธิของตนโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดฐานกรรโชคทรัพย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันกรรโชกทรัพย์ด้วยการข่มขืนใจผู้เสียหายทั้งสามให้ยอมให้เงินแก่จำเลยทั้งสอง เพื่อเป็นค่าเสียหายในกรณีที่ลูกกระบือของจำเลยที่ ๑ ถูกคนร้ายยิงตาย โดยจำเลยทั้งสองขู่เข็ญผู้เสียหายทั้งสามว่าจะจับตัวไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้เสียหายไปจมแม่น้ำมูลให้ตาย หรือกักขังผู้เสียหายทั้งสามไว้เมื่อขัดขืน จนผู้เสียหายยอมให้เงินแก่จำเลยทั้งสองขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๗,๘๓
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๗, ๘๓ จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ ๙ เดือน ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ ๖ เดือน
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองเป็นคนอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนเกิดเหตุกระบือของจำเลยที่ ๑ หายไป ๑ ตัว รุ่งขึ้นจำเลยที่ ๑ ได้พบหัวและหนังกระบือของจำเลยที่ ๑ อยู่ที่หมู่บ้านกระเบื้องใหญ่ จึงขอให้นายปลื้ม สุขรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่เกิดเหตุช่วยสืบหาคนร้าย และแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธร อำเภอชุมพลบุรี ต่อมานายปลื้มนัดผู้เสียหายทั้งสามไปพูดจาตกลงกับจำเลยที่บ้านนายบุญมาหรือแหลมเพราะสงสัยว่าผู้เสียหายทั้งสามจะเป็นผู้ที่ลักระบือของจำเลยที่ ๑ ไป จำเลยทั้งสองได้รับเงินจากผู้เสียหายทั้งสาม ๒,๐๐๐ บาท เพื่อที่จำเลยทั้งสองจะไม่ดำเนินคดีฟ้องร้องได้รับเงินจากผู้เสียหายทั้งสาม โดยจำเลยทั้งสองมิได้พูดข่มขู่หรือขู่เข็ญว่าจะประทุษร้ายผู้เสียหายทั้งสาม แต่ผู้เสียหายทั้งสามยอมให้เงินแก่จำเลยทั้งสองตามที่ประทุษร้ายผู้เสียหายทั้งสาม แต่ผู้เสียหายทั้งสามยอมให้เงินแก่จำเลยทั้งสองตามที่นายปลื้มพูดไกล่เกลี่ย แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า นายปลื้มเป็นผู้ใหญ่บ้านที่จำเลยทั้งสองขอให้ช่วยสืบหาจากคนร้ายที่ลักกระบือของตน เมื่อนายปลื้มนัดผู้เสียหายทั้งสามซึ่งเป็นลูกบ้านให้มาเจรจากับจำเลยทั้งสอง ย่อมมีมูลทำให้จำเลยทั้งสองเข้าใจว่าผู้เสียหายทั้งสามเป็นคนร้าย การที่จำเลยทั้งสองเรียกเงินจากผู้เสียหายทั้งสามเป็นค่ากระบือที่ถูกลักเอาไปเพื่อที่จะไม่ดำเนินคดีแก่ผู้เสียหายทั้งสาม โดยมีผู้ใหญ่บ้านฝ่ายผู้เสียหายเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยให้ จึงเป็นการใช้สิทธิของตนโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดฐานกรรโชกทรัพย์
พิพากษายืน