แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ด้วยข้อความอันมีมูล เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ แล้วหนังสือพิมพ์นำข้อความนั้นไปลงพิมพ์โฆษณา ดังนี้เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ใช้บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวานหรือ ยุยงส่งเสริมให้หนังสือพิมพ์ไปลงพิมพ์ การที่หนังสือพิมพ์นำข้อความ นั้นไปลงพิมพ์จึงเป็นเรื่องของหนังสือพิมพ์โดยเฉพาะ คดีโจทก์ ไม่มีมูลความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยให้สัมภาษณ์ ลงพิมพ์ โฆษณาใส่ความโจทก์ในหนังสือพิมพ์รายวัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖, ๓๒๘ และ ๙๑
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งว่าคดีโจทก์มีมูลเฉพาะความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา ส่วนความผิดตามมาตรา ๓๒๘ ไม่มีมูลให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนฟังได้ว่าจำเลยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ด้วยข้อความอันมีมูลเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ แล้วหนังสือพิมพ์นำข้อความนั้นไปลงพิมพ์โฆษณา มีปัญหาว่าการกระทำของจำเลยจะมีมูลเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาหรือไม่ เห็นว่าการกระทำของจำเลยในกรณีนี้มีเพียงประการเดียวคือ การให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือยุยงส่งเสริมให้หนังสือพิมพ์ไปลงพิมพ์ การที่หนังสือพิมพ์นำข้อความนั้นไปลงพิมพ์โฆษณาหรือไม่เป็นเรื่องของหนังสือพิมพ์โดยเฉพาะ จำเลยหามีความผิดตามมาตรา ๓๒๘ ด้วยไม่ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๘ นั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน