แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อสาลปรับจำเลยรวมกันการจำแทนค่าปรับต้องเฉลี่ยจากจำนวนการจำแทนไม่เกิน 1 ปี จะเฉลี่ยจากจำนวนค่าปรับที่จะจำแทนเกิน 1 ปีไม่ได้.
ย่อยาว
คดีนี้สาลชั้นต้นพิพากสาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. สุลกากร พ.ส. ๒๔๖๙ ม. ๒๗ ที่แก้ไขตามฉบับที่ ๙ มาตรา ๖ ไห้ปรับรวมกัน ๓ เท่าราคาของทั้งอากรเปนเงิน ๑๓๙๔ บาท ๖๗ สตางค์ ลดตามมาตรา ๕๙ คงปรับรวมกันเปนเงิน ๖๘๗ บาท ๓๓ สตางค์ ถ้าจะต้องจำแทนไห้จำไม่เกิน ๑ ปี ตามมาตรา ๑๘ วัค ๒ คือคนละ ๒ เดือน ๑๒ วัน
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสาแก้ไห้จำแทนจำเลยคนละ ๑๓๙ วันตามส่วนเฉลี่ยแห่งจำนวนเงินค่าปรับตาม ม. ๑๘ และ ๒๒ (๒).
จำเลยดีกา สาลดีกาเห็นว่าคดีเรื่องนี้สาลพิพากสาปรับจำเลยรวมกันเปนอันหนึ่งอันเดียวตามพ.ร.บ.สุลกากร ไม่ไช่เปนเรื่องปรับเรียงตัว วิธีปติบัติไนเรื่องจำแทนค่าปรับจึงต่างกัน ค่าปรับไนคดีนี้ ๖๙๗ บาท ๓๓ สตางค์ จะจำคุกแทนค่าปรับได้เพียง ๑ ปี หรือ ๓๖๕ วันเท่านั้น ฉะนั้นเมื่อจำเลย ๕ คนไนคดีนี้คนไดจะถูกจำคุกแทนค่าปรับถึง ๑ ปีไม่ได้ด้วยจะเปนการจำแทนกันไปเมื่อเช่นนี้จำเลย ๕ คนจึงต้องถูกแบ่งเฉลี่ยวันที่จะต้องจำแทนค่าปรับ ๑ ปี ได้ผลลัภคนละ ๒ เดือน ๑๓ วัน จึงพิพากสาแก้ว่าจะต้องจำแทนค่าปรับ ไห้จำจำเลยคนละ ๒ เดือน ๑๓ วัน.