แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายเป็นการป้องกันตัว แต่กระทำเกินกว่าเหตุ ควรรับโทษ โจทก์ไม่อุทธรณ์ดังนี้ ชั้นฎีกาโจทก์จะกลับขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหาได้ไม่
ผู้ตายมีพรรคพวก 5 คนพากันไปหน้าบ้านจำเลย ผู้ตายผลักบานประตูบ้านจำเลยเปิดออกและผู้ตายกับจำเลยพูดโต้เถียงกันจำเลยบอกให้ผู้ตายกลับไปเสียหายเมาจึงพูดกันใหม่ ผู้ตายไม่ยอมกลับ จำเลยปิดประตู ผู้ตายผลักบานประตูกระแทกจำเลยเซแล้วผู้ตายก้าวเท้าข้างหนึ่งล้ำเข้าไปในประตูและใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงจำเลย จำเลยหลบเสีย มีดจึงไม่ถูก ผู้ตายแทงซ้ำ จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดซ้อน ผู้ตายเซถอยแล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษจำเลย
ย่อยาว
ความว่า ผู้ตายมีพรรคพวกอีก 5 คน พากันมาหน้าบ้านจำเลยผู้ตายผลักบานประตูบ้านของจำเลยเปิดออก แล้วเกิดโต้เถียงกันถึงเรื่องผู้ตายหาว่าจำเลยกล่าวหาผู้ตายว่าเป็นผู้ร้ายทำการปล้นจำเลยบอกให้ผู้ตายกลับไปบ้านเสียก่อน เพราะกำลังเมามาย หายเมาแล้วมาพูดกัน ผู้ตายไม่ยอมกลับจำเลยปิดประตู ผู้ตายผลักบานประตูกระแทกจำเลยเซ แล้วผู้ตายก้าวเท้าหนึ่งล้ำเข้าไปในประตู และใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงจำเลย จำเลยหลบเสีย มีดจึงไม่ถูก ขณะนั้นจำเลยกลับมาจากไปตรวจจับโจรผู้ร้าย มีปืนอยู่ในกระเป๋ากางเกง พอผู้ตายแทงซ้ำ จำเลยก็ใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดซ้อน ผู้ตายเซล้มลงขาดใจตายโจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยได้ใช้ปืนยิง เพื่อป้องกันตัวไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตายศาลชั้นต้นเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัว แต่กระทำเกินกว่าเหตุ พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปีตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ประกอบด้วยมาตรา 53 ริบปืน ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวสมควรแก่เหตุตามมาตรา 50 พิพากษายกฟ้อง
อัยการโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
นายหีดโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นชี้ขาดข้อเท็จจริงว่าจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายเป็นการป้องกันตัว แต่กระทำเกินกว่าเหตุ จึงควรได้รับโทษ อัยการและนายหีดโจทก์ไม่อุทธรณ์ จึงถือว่าโจทก์ยอมรับข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดมา นายหีดโจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาใหม่ไม่ได้ ส่วนข้อเท็จจริงคงฟังได้ว่า จำเลยได้ทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษจำเลย
พิพากษายืน