คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้พันตำรวจเอก ผ. นายกเทศมนตรีจะสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างโดยเขียนข้อความลงในนามบัตรของตนแล้วมอบให้ ว. ไปติดต่อสั่งซื้อจากโจทก์ก็ตามแต่การซื้อโดยวิธีพิเศษนี้ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 ข้อ 17,20 และ 22 กำหนดให้เจ้าหน้าที่พัสดุต้องจัดทำรายงานเสนอนายกเทศมนตรีผู้มีอำนาจสั่งซื้อถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องซื้อ รายละเอียดของพัสดุที่จะซื้อ ราคามาตรฐานหรือราคากลางของทางราชการ หรือราคาที่เคยซื้อหลังสุดภายในเวลา 2 ปีงบประมาณวงเงินที่จะซื้อ กำหนดเวลาที่ต้องการใช้พัสดุนั้น วิธีที่จะซื้อและเหตุผลที่ต้องซื้อโดยวิธีนั้น รวมทั้งการขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จำเป็นในการซื้อเพื่อในนายกเทศมนตรีอนุมัติก่อน แต่ปรากฏว่าโจทก์ส่งวัสดุก่อสร้างให้จำเลยทันทีทั้งที่เจ้าหน้าที่พัสดุยังไม่ได้ทำรายงานเสนอนายกเทศมนตรี เมื่อนายกเทศมนตรียังมิได้ให้ความเห็นชอบในรายงานดังกล่าว แสดงว่าจำเลยยังไม่ได้ตกลงซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์ด้วยวิธีพิเศษ การที่โจทก์ส่งวัสดุก่อสร้างให้แก่จำเลยจึงเป็นการกระทำโดยพลการของโจทก์แต่เพียงฝ่ายเดียว โดยจำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยจึงไม่มีผลผูกพันจำเลยให้ต้องรับผิดชำระหนี้ให้แก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกอบกิจการค้าขายวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้างโดยใช้ชื่อในการประกอบกิจการว่า “ร้านอมรเทพ” จำเลยเป็นหน่วยงานราชการปกครองส่วนท้องถิ่น มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย มีพันตำรวจเอกผ่อน เสือเทพ ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองปากพนังรับผิดชอบในการดำเนินกิจการและบริหารงานของเทศบาลเมืองปากพนัง จำเลยโดยพันตำรวจเอกผ่อนนายกเทศมนตรีเมืองปากพนังสั่งซื้อสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างจากโจทก์หลายรายการโจทก์ตกลงขายสินค้าและเริ่มส่งสินค้าดังกล่าวให้แก่จำเลย ต่อมาจำเลยสั่งระงับการสั่งซื้อสินค้าและไม่ยอมชำระค่าสินค้าที่ได้รับไปแล้วให้แก่โจทก์ โจทก์ทวงถามให้จำเลยชำระราคาสินค้าแล้ว แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 470,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยทำสัญญาซื้อขายวัสดุก่อสร้างกับโจทก์และไม่เคยเป็นหนี้ค่าวัสดุก่อสร้างโจทก์จำนวน 470,800 บาท การจัดซื้อพัสดุที่ใช้ในกิจการของจำเลยนั้น เจ้าหน้าที่ของจำเลยและนายเทศมนตรีจะต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นพ.ศ. 2535 โดยเคร่งครัด ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่าจำเลยต้องรับผิดชำระเงินตามฟ้องให้แก่โจทก์หรือไม่ โจทก์เบิกความว่า การซื้อขายรายนี้เป็นการซื้อโดยวิธีพิเศษ และโจทก์ส่งวัสดุก่อสร้างให้แก่จำเลยเรียบร้อยแล้วแต่จำเลยเพิกเฉยไม่ชำระเงินค่าสินค้าให้โจทก์ เห็นว่า ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 ข้อ 17 ระบุว่า”การซื้อโดยวิธีพิเศษ ได้แก่ การซื้อครั้งหนึ่งซึ่งมีราคาเกิน 50,000 บาท ให้กระทำได้เฉพาะกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้

(1) ฯลฯ

(2) เป็นพัสดุที่ต้องซื้อเร่งด่วน หากล่าช้าอาจจะเสียหายแก่หน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น

ข้อ 20 ก่อนดำเนินการซื้อหรือจ้างทุกวิธี นอกจากการซื้อที่ดินและหรือสิ่งก่อสร้างตามข้อ 21 ให้เจ้าหน้าที่พัสดุจัดทำรายงานเสนอผู้สั่งซื้อหรือผู้สั่งจ้างตามรายการดังต่อไปนี้

(1) เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องซื้อหรือจ้าง

(2) รายละเอียดของพัสดุที่จะซื้อหรืองานที่จะจ้าง

(3) ราคามาตรฐานหรือราคากลางของทางราชการ หรือราคาที่เคยซื้อหรือจ้างครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา 2 ปีงบประมาณ

(4) วงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง โดยให้ระบุวงเงินงบประมาณวงเงินตามโครงการเงินกู้ หรือเงินช่วยเหลือที่จะซื้อหรือจ้างในครั้งนั้นทั้งหมด ถ้าไม่มีวงเงินดังกล่าวให้ระบุวงเงินที่ประมาณว่าจะซื้อหรือจ้างในครั้งนั้น

(5) กำหนดเวลาที่ต้องการใช้พัสดุนั้น หรือให้งานนั้นแล้วเสร็จ

(6) วิธีที่จะซื้อหรือจ้าง และเหตุผลที่ต้องซื้อหรือจ้างโดยวิธีนั้น

(7) ข้อเสนออื่น ๆ เช่น การขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จำเป็นในการซื้อหรือจ้าง การออกประกาศสอบราคาหรือประกาศประกวดราคา

ในกรณีเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการซื้อหรือจ้างโดยวิธีพิเศษตามข้อ 17(2)หรือข้อ 18(3) ซึ่งไม่อาจทำรายงานตามปกติได้ เจ้าหน้าที่พัสดุหรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการนั้นจะทำรายงานตามวรรคหนึ่งเฉพาะรายการที่เห็นว่าจำเป็นก็ได้

ข้อ 22 เมื่อผู้สั่งซื้อหรือผู้สั่งจ้างให้ความเห็นชอบตามรายงานที่เสนอตามข้อ 20 หรือข้อ 21 แล้ว ให้เจ้าหน้าที่พัสดุดำเนินการตามวิธีการซื้อหรือการจ้างนั้นต่อไปได้

ข้อเท็จจริงได้ความจากพันตำรวจเอกผ่อน เสือเทพ นายกเทศมนตรี นายวิมลไอยสูรย์ นายช่างโยธา 5 และนางลำดวน คัมภีรปรีชา เจ้าหน้าที่พัสดุ 4 ซึ่งเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า การซื้อขายวัสดุก่อสร้างระหว่างโจทก์และจำเลยในครั้งนี้พันตำรวจเอกผ่อนสั่งซื้อโดยเขียนข้อความลงในนามบัตรของพันตำรวจเอกผ่อนแล้วมอบให้นายวิมลไปติดต่อสั่งซื้อจากร้านอมรเทพของโจทก์ ระหว่างที่นางลำดวนกำลังดำเนินการเพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 อยู่นั้น โจทก์ก็ส่งวัสดุก่อสร้างให้แก่จำเลยทันทีทั้ง ๆ ที่นางลำดวนเจ้าหน้าที่พัสดุ 4 ยังไม่ได้ทำรายงานเสนอพันตำรวจเอกผ่อนนายกเทศมนตรีผู้มีอำนาจสั่งซื้อถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องซื้อ รายละเอียดของพัสดุที่จะซื้อ ราคามาตรฐานหรือราคากลางของทางราชการ หรือราคาที่เคยซื้อครั้งหลังสุดภายในเวลา 2 ปีงบประมาณ วงเงินที่จะซื้อ กำหนดเวลาที่ต้องการใช้พัสดุนั้น วิธีที่จะซื้อและเหตุผลที่ต้องซื้อโดยวิธีนั้น รวมทั้งการขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จำเป็นในการซื้อ เพื่อให้นายกเทศมนตรีอนุมัติก่อนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ข้อ 20 และไม่ปรากฏว่าพันตำรวจเอกผ่อนนายกเทศมนตรีผู้มีอำนาจสั่งซื้อให้ความเห็นชอบรายงานดังกล่าวตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยข้อ 22 แสดงว่าจำเลยยังไม่ได้ตกลงซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์ด้วยวิธีพิเศษ การที่โจทก์ส่งวัสดุก่อสร้างให้แก่จำเลยจึงเป็นการกระทำโดยพลการของโจทก์แต่เพียงฝ่ายเดียวโดยจำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จึงไม่มีผลผูกพันจำเลยให้ต้องรับผิดชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามฟ้อง ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของโจทก์อีกต่อไป ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share