คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5569/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522มาตรา39วรรคหนึ่งที่บัญญัติว่าในกรณีมีประเด็นที่ยังไม่อาจตกลงกันหรือไม่อาจประนีประนอมยอมความกันให้ศาลแรงงานจดประเด็นข้อพิพาทและบันทึกคำแถลงของโจทก์กับคำให้การของจำเลยอ่านให้คู่ความฟังและให้ลงลายมือชื่อไว้โดยจะระบุให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำพยานมาสืบก่อนหรือหลังก็ได้แล้วให้ศาลแรงงานกำหนดวันสืบพยานไปทันทีหมายถึงกรณีที่ศาลแรงงานกำหนดวันพิจารณาโดยยังไม่ได้กำหนดวันสืบพยานเมื่อศาลแรงงานได้ดำเนินการตามบทบัญญัติดังกล่าวแล้วก็ให้กำหนดวันสืบพยานไปทันทีประกอบกับมาตรา29บัญญัติว่าเพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแรงงานเป็นไปโดยประหยัดสะดวกรวดเร็วและเที่ยงธรรมจึงให้อำนาจแก่อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางโดยได้รับอนุมัติจากประธานศาลฎีกาออกข้อกำหนดศาลแรงงานว่าด้วยการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลแรงงานข้อ10ว่าในกรณีที่ศาลแรงงานสั่งให้มีการสืบพยานถ้าคู่ความได้นำพยานทั้งหมดหรือบางส่วนมาศาลและพร้อมที่จะสืบได้ในวันนั้นให้ศาลดำเนินการสืบพยานไปทันทีดังนี้การที่ศาลแรงงานกำหนดวันสืบพยานโจทก์ในวันเดียวกันกับวันนัดพิจารณาจึงเป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าวที่ศาลแรงงานไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีหาเป็นการขัดต่อมาตรา39วรรคหนึ่งไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายค่าจ้างที่ค้างพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ไม่เคยค้างค่าจ้างแก่โจทก์จำเลยหมดความจำเป็นจ้างโจทก์ต่อไปอีก ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า คดีคงมีปัญหาตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า ที่ศาลแรงงานกลางให้สืบพยานโจทก์ในวันเดียวกันกับวันนัดพิจารณาและไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดี ขัดต่อพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 39 วรรคหนึ่งหรือไม่ เห็นว่า ตามที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 39 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีมีประเด็นที่ยังไม่อาจตกลงกันหรือไม่อาจประนีประนอมยอมความกันให้ศาลแรงงานจดประเด็นข้อพิพาทและบันทึกคำแถลงของโจทก์กับคำให้การของจำเลยอ่านให้คู่ความฟังและให้ลงลายมือชื่อไว้ โดยจะระบุให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำพยานมาสืบก่อนหรือหลังก็ได้ แล้วให้ศาลแรงงานกำหนดวันสืบพยานไปทันที” หมายถึงกรณีที่ศาลแรงงานกำหนดวันพิจารณาโดยยังไม่ได้กำหนดวันสืบพยาน เมื่อศาลแรงงานได้ดำเนินการตามที่กล่าวในมาตรานี้แล้ว ก็ให้กำหนดวันสืบพยานไปทันที แต่คดีนี้ศาลแรงงานกลางได้กำหนดวันพิจารณาและสืบพยานโจทก์ด้วยในวันเดียวกัน คือวันที่11 เมษายน 2537 เวลา 9 นาฬิกา ซึ่งตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 29 บัญญัติว่า “เพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแรงงานเป็นไปโดยประหยัด สะดวก รวดเร็ว และเที่ยงธรรมให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางมีอำนาจออกข้อกำหนดใด ๆ ใช้บังคับในศาลแรงงานได้เมื่อได้รับอนุมัติจากประธานศาลฎีกาแล้ว ฯลฯ” และตามข้อกำหนดศาลแรงงานว่าด้วยการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลแรงงานซึ่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางได้ออกตามความในบทบัญญัติดังกล่าว ข้อ 10 มีว่า “ในกรณีที่ศาลแรงงานสั่งให้มีการสืบพยาน ฯลฯ ถ้าคู่ความได้นำพยานทั้งหมดหรือบางส่วนมาศาลและพร้อมที่จะสืบได้ในวันนั้น ให้ศาลดำเนินการสืบพยานไปทันที ฯลฯ” ดังนี้ การที่ศาลแรงงานกลางกำหนดวันสืบพยานโจทก์ในวันเดียวกันกับวันนัดพิจารณา จึงเป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาเป็นไปโดยรวดเร็วและการที่ศาลแรงงานกลางไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีหาเป็นการขัดต่อพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 39 วรรคหนึ่งไม่
พิพากษายืน

Share