คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่1กับ ป. มีหน้าที่ครอบครองและควบคุมดูแลรถยนต์รวมทั้งมีหน้าที่ขับรถยนต์ของโจทก์และต่างก็เป็นลูกจ้างชั่วคราวของโจทก์ด้วยกันหากจะถือว่าจำเลยที่1เป็นหัวหน้าคนงานการสั่งให้ป. ขับรถยนต์ไปบรรทุกหินก็เป็นการสั่งให้ ป. ไปปฏิบัติหน้าที่ในราชการของโจทก์ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่1ร่วมประมาทเลินเล่อกับ ป. ด้วยเมื่อเหตุละเมิดครั้งนี้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของ ป. แต่ผู้เดียวโดยที่จำเลยที่1ไม่ได้ครอบครองหรือควบคุมดูแลรถยนต์คันเกิดเหตุในขณะเกิดเหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา437จำเลยที่1จึงไม่ต้องร่วมรับผิดกับ ป. ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย ที่ 1 และ นาย ประยูร เป็น ลูกจ้าง ชั่วคราว ของ โจทก์ ได้รับ มอบหมาย จาก เจ้าหน้าที่ ของ โจทก์ ให้ ร่วมกัน เป็นผู้ครอบครอง ควบคุม ดูแล และ ขับ รถยนต์ คัน หมายเลข ทะเบียน ก. ท.ป. 3578ของ โจทก์ เมื่อ วันที่ 17 มกราคม 2520 จำเลย ที่ 1 สั่ง ให้ นาย ประยูร ขับ รถยนต์ คัน ดังกล่าว ไป บรรทุก หิน มา ใช้ ใน ราชการ ของ โจทก์ นาย ประยูร ขับ รถยนต์ ด้วย ความประมาท ชน กับ รถยนต์กระบะ คัน หมายเลข ทะเบียนพล. 04603 และ รถยนต์โดยสาร คัน หมายเลข ทะเบียน บร.00799 เป็นเหตุให้ สิบตำรวจโท สุจินต์ ทองมนต์ ผู้โดยสาร รถยนต์ คัน หมายเลข ทะเบียน บร.00799 ได้รับ บาดเจ็บ ส่วน นาย ประยูร ถึงแก่ความตาย เจ้าของ รถยนต์ ทั้ง สอง คัน และ สิบตำรวจโท สุจินต์ ได้ ยื่นฟ้อง โจทก์ ใน มูลละเมิด ให้ ร่วมรับผิด กับ จำเลย ที่ 1 และ นาย ประยูร ศาลจังหวัด บุรีรัมย์ พิพากษา ให้ โจทก์ ใช้ ค่าเสียหาย รวมเป็น เงิน ทั้งสิ้น668,102.51 บาท เมื่อ วันที่ 2 กรกฎาคม 2524 และ วันที่ 12 พฤศจิกายน2524 โจทก์ ได้ ชำระ เงิน ตาม คำพิพากษา ให้ แก่ บุคคล ดังกล่าว แล้วจึง ได้รับ ช่วง สิทธิ ไล่เบี้ย เอา แก่ จำเลย ที่ 1 และ นาย ประยูร แต่ โจทก์ ขอ เรียกคืน เพียง 643,342.51 บาท ได้ แจ้ง ให้ จำเลย ที่ 1 และจำเลย ที่ 2 ใน ฐานะ ผู้จัดการมรดก ของ นาย ประยูร ให้ ชดใช้ เงิน คืน แล้วแต่ เพิกเฉย ขอให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ชดใช้ เงิน คืน แก่ โจทก์เป็น เงิน 643,342.51 บาท พร้อม ดอกเบี้ย
จำเลย ทั้ง สอง ขาดนัด ยื่นคำให้การ และ ขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ นาย ประยูร ศรีผดุง โดย นาง พูน ศรีผดุง จำเลย ที่ 2 ชดใช้ เงิน จำนวน 643,342.51 บาท แก่ โจทก์ พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย อัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อ ปี นับแต่ วันฟ้อง จนกว่า จะ ชำระเสร็จ ให้ จำเลย ใช้ ค่าฤชาธรรมเนียม แทน โจทก์ โดย กำหนด ค่า ทนายความให้ 1,500 บาท ยกฟ้อง จำเลย ที่ 1
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ เป็น ว่า ค่าฤชาธรรมเนียม ใน ศาลชั้นต้นระหว่าง โจทก์ กับ จำเลย ที่ 1 ให้ เป็น พับ นอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตามคำพิพากษา ของ ศาลชั้นต้น
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดี มี ปัญหา ว่า จำเลย ที่ 1 จะ ต้อง ร่วมรับผิด กับ จำเลย ที่ 2 ชดใช้ เงิน ให้ โจทก์ หรือไม่ เห็นว่า ตาม คำฟ้องและ ที่ โจทก์ นำสืบ จำเลย ที่ 1 กับ นาย ประยูร มี หน้าที่ ครอบครอง และ ควบคุม ดูแล รถยนต์ รวมทั้ง มี หน้าที่ ขับ รถยนต์ ของ โจทก์ และ ต่าง ก็เป็น ลูกจ้าง ชั่วคราว ของ โจทก์ ด้วยกัน หาก จะ ถือว่า จำเลย ที่ 1เป็น หัวหน้า คนงาน จำเลย ที่ 1 สั่ง ให้ นาย ประยูร ขับ รถยนต์ ไป บรรทุก หิน ก็ เป็น การ สั่ง ให้ นาย ประยูร ไป ปฏิบัติ หน้าที่ ใน ราชการ ของ โจทก์ นั่นเอง กรณี เช่นนี้ ยัง ถือไม่ได้ว่า จำเลย ที่ 1 ได้ ร่วมประมาท เลินเล่อ กับ นาย ประยูร ด้วย เมื่อ ข้อเท็จจริง ฟังได้ ว่า เหตุ ละเมิด ครั้งนี้ เกิดจาก ความประมาท เลินเล่อ ของ นาย ประยูร แต่ ผู้เดียว โดย ที่ จำเลย ที่ 1 ไม่ได้ ครอบครอง หรือ ควบคุม ดูแล รถยนต์ คัน เกิดเหตุใน ขณะ เกิดเหตุ ตาม ความใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437จำเลย ที่ 1 จึง ไม่ต้อง ร่วมรับผิด กับ นาย ประยูร ด้วย
พิพากษายืน

Share