คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจเข้าไปในเคหะสถานที่อยู่อาศัยของนางสินโดยเจ้าของมิได้อนุญาตให้เข้าไปแล้วลักเอาสร้อยคอ 1 เส้นราคา 600 บาท ของนางสินไปโดยใช้กริยาฉกฉวยพาหนีไปต่หน้า ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.294,297,60
ดังนี้แม้ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยยืนเมาสุราแล้วถือวิสาสะเข้าไปลวนลามเจ้าทรัพย์จำเลยไม่มีเถยยะจิตต์คิดจะเอาทรัพย์แต่อย่างใด แต่จำเลยรับว่าได้เข้าไปในเคหะของเจ้าทรัพย์จริงและไม่ได้ฟังว่าเจ้าทรัพย์เรียกจำเลยเข้าไปคุยด้วย ก็ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตาม ม.329(2) ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๔๙๘ เวลากลางคืน จำเลยบังอาจเข้าไปในเคหะสถานที่อยู่อาศัยของนางสิน บัวพิบาลโดยเจ้าของมิได้อนุญาตให้เข้าไป แล้วลักเอาสร้อย ๑ เส้นราคา ๖๐๐ บาทของนางสินไป ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๒๙๔,๒๙๗,๖๐
จำเลยปฏิเสธต่อสู้ว่าคืนโจทก์นางสินผู้เสียหายเรียกให้จำเลยเข้าไปคุยในบ้านแล้วใช้มีดฟันหน้าจำเลย
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าจำเลยเมาเข้าไปลวนลามนางสินซึ่งควรจะเป็นความผิดอีกฐานหนึ่งแต่โจทก์ไม่ได้ฟ้อง พฤติการณ์ยังเป็นที่สงสัยว่าจำเลยดึงสายสร้อยของเจ้าทรัพย์จริง จึงควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๒๙๔ ตอน ๒ ประกอบด้วย ม.๖๐ ให้จำคุกจำเลย ๘ เดือน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่ากรณีแห่งเหตุของเรื่องคงเนื่องจากจำเลยมึนเมาสุราแล้วถือวิวสาสะเข้าไปลวนลามรบกวนเจ้าทรัพยืถึงในห้องนอนขณะที่สามีไม่อยู่เวลามืด ๆ เจ้าทรัพย์จึงหยิบมีดฟันเอา จำเลยหามีเถยะจิตต์คิดจะเอาทรัพย์แต่อย่างใดไม่ แต่จำเลยรับว่าได้เข้าไปในเคหะของนางสินจริงโดย ไม่มีข้อแก้ตัว ที่จำเลยต่อสู้ว่านางสินเรียกจำเลยเข้าไปคุยด้วยนั้นไม่มีเหตุผลอันควรรับฟัง พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๓๒๙(๒) ให้จำคุกจำเลยไว้ ๖ เดือนลดฐานปราณีที่จำเลยรับสารภาพตาม ม.๕๙ กึ่งหนึ่งคงเหลือโทษ จำคุก ๓ เดือนและจำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อนทั้งได้รับบาดเจ็บถูกนางสินฟันหน้าโลหิตไหลได้รับผลกรรมสนองอยู่แล้วจึงควรให้รอการลงโทษจำเลยไว้ก่อนภายในกำหนด ๓ ปี ตาม ม.๔๑,๔๒.

Share