แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า โจทก์ได้ทำสัญญากู้เงินจำเลยเมื่อ พ.ศ.2471 ครั้นจำเลยนำสัญญามาฟ้องกลับปลอม (แก้) เป็น พ.ศ.2473 เพื่อให้อายุความยืดออกไป ดังนี้เป็นฟ้องที่ชัดเจนพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่จำต้องกล่าวว่าจำเลยทำปลอมขึ้นเมื่อวัน เดือน ปี ใดและที่ไหน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้นำความมาฟ้องต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทราว่าจำเลยได้กู้เงินโจทก์ไปเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๑ เป็น พ.ศ.๒๔๗๓ เพื่อให้อายุความยืดออกไป ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ๑ ปี ตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๕,๑๕๗,๒๒๒,๒๒๔.
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องโจทก์กล่าวความว่า โจทก์ได้ทำสัญญากู้เงินจำเลยเมื่อพ.ศ.๒๔๗๑ ครั้นจำเลยนำสัญญามาฟ้องกลับปลอม(แก้) เป็นพ.ศ. ๒๔๗๓ เพื่อให้อายุความยืดออกไป เช่นนี้เป็นฟ้องที่มีความชัดเจนพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว โจทก์ไม่จำต้องกล่าวว่าจำเลยทำปลอมขึ้นเมื่อวัน เดือน ปีใดและที่ไหนไม่ เพราะสัญญากู้อยู่ในความยึดถือของจำเลย โจทก์ย่อมไม่สามารถล่วงรู้ได้ จึงพิพากษายืน.