แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์นำพยานเข้าสืบก่อนตามภาระการพิสูจน์เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ปรากฏตามข้อ อ้างของตน โจทก์ก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีโดยไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นมารดาของนายก้าน ทองทวน ซึ่งถึงแก่กรรมแล้ว นายก้านมีที่ดิน น.ส.๓ ก. เลขที่ ๘๒๘ ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี จำเลยไปยื่นคำขอให้นายทะเบียนที่ดินจดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยและบุตรโดยแจ้งว่าโจทก์ไม่ ประสงค์จะรับมรดก ซึ่งไม่เป็นความจริงจำเลยมีเจตนายักย้ายปิดบังทรัพย์มรดกเป็นการฉ้อฉลให้โจทก์เสียประโยชน์ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยไปเพิกถอนการไม่ขอรับมรดกของโจทก์ และแบ่งที่ดินให้โจทก์ และมีคำสั่งกำจัดจำเลยมิให้รับมรดก แล้วเอาส่วนของจำเลยมาแบ่งแก่ทายาท
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นภรรยาผู้ตาย โจทก์ทำหนังสือสละการรับมรดกโดยไม่มีการขู่เข็ญ หลอกลวง หรือบังคับแต่อย่างใดจำเลยไม่ได้ยักย้ายปิดบังทรัพย์มรดก ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ หากไม่ดำเนินการให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา
จำเลยอุทธรณ์
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ถึงแก่ความตาย นายแดงทองหวน บุตรโจทก์ขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลอุทธรณ์อนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกและขอกำจัดมิให้จำเลยมีสิทธิได้รับมรดกของเจ้ามรดก จำเลยให้การว่าโจทก์สละมรดกแล้วจึงไม่มีสิทธิรับมรดก และจำเลยมิได้ยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดก ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงข้อเดียวว่าจำเลยได้ยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกตามฟ้องโดยฉ้อฉลโจทก์หรือไม่ซึ่งพอเข้าใจได้และหมายความว่าจำเลยได้ยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกและฉ้อฉลหลอกลวงให้โจทก์สละมรดกด้วยหรือไม่ ซึ่งภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์ เมื่อศาลชั้นต้นได้กำหนดให้โจทก์นำพยานเข้าสืบก่อนตามภาระการพิสูจน์แล้วโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ปรากฏตามข้ออ้างของตนโจทก์ก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีโดยไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลยต่อไปอีก
พิพากษายืน.