แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
รถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยสูญหายเมื่อ12 มีนาคม 2527 หลังเกิดเหตุผู้เอาประกันภัยไปแจ้งความในวันเดียวกัน โจทก์รับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 แล้วมายื่นฟ้องในวันที่ 10 ตุลาคม 2527 เกินกำหนดเวลา 6 เดือนคดีโจทก์จึงขาดอายุความ ตามมาตรา 678
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า วันที่ 11 มีนาคม 2527 เวลาประมาณ20 นาฬิกา นางชวนพิศซึ่งเป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์ที่โจทก์รับประกันไว้ ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวเช้าไปฝากไว้กับจำเลยที่ลานจอดรถ ซึ่งมีรั้วล้อมรอบบริเวณโรงแรมของจำเลย โดยจำเลยให้ลูกจ้างเป็นผู้ดูแลรถยนต์ของผู้มาพักในโรงแรมและได้เข้าพักแรมในโรงแรมจำเลยต่อมาวันรุ่งขึ้นจึงทราบว่ารถคันที่โจทก์รับประกันภัยไว้สูญหายไป โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับนางชวนพิศเป็นเงินจำนวน 80,000 บาท ไปแล้วเต็มตามสัญญา โจทก์จึงรับช่วงสิทธิโดยผลของกฎหมายจำเลยซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการโรงแรมต้องรับผิดในความสูญหายของทรัพย์สินซึ่งแขกผู้อาศัยได้พามาและจอดไว้ในบริเวณโรงแรมของจำเลย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน80,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้ฟ้องคดีภายในหกเดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 678คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงินจำนวน80,000 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองให้ฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ โดยอ้างเหตุหลายประการและอ้างว่าคดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 678 นั้นเห็นสมควรวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในปัญหาอายุความเสียก่อนตามสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและคำขอบังคับของโจทก์เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องจำเลยให้รับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยมีมูลหนี้สืบเนื่องมาจากนางชวนพิศผู้เอาประกันภัยได้นำรถยนต์ที่จำเลยรับประกันภัยไว้ไปจอดในบริเวณโรงแรมของจำเลย ซึ่งจำเลยในฐานะเจ้าสำนักโรงแรมจะต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่ทรัพย์สินซึ่งคนเดินทางหรือแขกอาศัยหากได้พามา ซึ่งเกี่ยวกับกำหนดอายุความเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในกรณีดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 678 บัญญัติว่า”ในข้อความรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อทรัพย์สินของคนเดินทางหรือของแขกอาศัยสูญหายหรือบุบสลายนั้นท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลาหกเดือนนับแต่วันที่คนเดินทางหรือแขกอาศัยออกไปจากสถานที่นั้น” ข้อเท็จจริงปรากฏตามที่โจทก์นำสืบว่า เหตุรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยสูญหายเกิดขึ้นในวันที่ 12 มีนาคม 2527 หลังเกิดเหตุนางชวนพิศไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแล้วเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในวันเดียวกัน โจทก์รับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 มาและยื่นฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความสูญหายของรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยจากจำเลยตามฟ้องเมื่อวันที่10 ตุลาคม 2527 เกินกำหนดเวลาหกเดือนคดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 678 ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยว่า คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น เมื่อคดีของโจทก์ขาดอายุความซึ่งจะต้องพิพากษายกฟ้องแล้วศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยฎีกาของจำเลยในปัญหาอื่นต่อไป
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น