คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เอกสารที่ ส. ภรรยาจำเลยทำให้วัดโจทก์ยึดถือไว้ยอมรับว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ได้ทำต่อหน้าเจ้าอาวาสและกรรมการหลายคน มีลายพิมพ์นิ้วมือ ส. และลายเซ็นชื่อของทุกคนกรรมการ 3 คนเบิกความว่า ส. พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าตนและทั้ง 3 คนเซ็นชื่อไว้ด้วย จึงฟังได้ว่าทั้ง 3 คน มีฐานะเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของ ส. ด้วย
เอกสารมีใจความว่า ส. ขอเช่าที่พิพาทต่อไป หากโจทก์ต้องการใช้ที่ดินเมื่อใดก็ยินดีจะคืนให้ ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการเช่า และไม่ได้ตกลงจะให้ค่าเช่าจึงไม่ใช่สัญญาเช่า แต่เป็นหนังสือที่ ส. รับรู้สิทธิของโจทก์ในที่พิพาท ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ ศาลรับฟังเอกสารดังกล่าวได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าที่พิพาทตามแนวเส้นสีแดงในแผนที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้อง ให้จำเลยและบริวารรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากที่พิพาท ให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยฎีกาว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยการที่ศาลอุทธรณ์รับฟังเอกสารหมาย จ.2 ว่าเป็นสัญญาเช่าที่นางสังวาลย์ภรรยายจำเลยทำให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นการยอมรับว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แต่เอกสารดังกล่าวไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของนางสังวาลย์ ทั้งสัญญาเช่าเอกสารหมาย จ.2 นี้ก็มิได้ปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมายจึงรับฟังเป็นพยานไม่ได้ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ขณะที่นางสังวาลย์ทำเอกสารหมาย จ.2 ได้ทำต่อหน้าพระอธิการเขียน โธทโนประธานเจ้าอาวาสในขณะนั้น นายขุน นายเสียนนายแร่ และกรรมการอื่นอีกหลายคน เอกสารหมาย จ.2 มีลายพิมพ์นิ้วมือนางสังวาลย์กับลายเซ็นคนอื่น ๆ ถัดมาข้างล่างมีลายเซ็นชื่อพระอธิการเขียนเจ้าอาวาส นายขุน นายเสียน นายแร่ และกรรมการคนอื่น ๆ ซึ่งนายขุน นายเสียนนายแร่ ก็ได้มาเบิกความรับรองว่านายสังวาลย์ได้พิมพ์ลายนิ้วมือในเอกสารหมาย จ.2ต่อหน้าตน และพยานทั้งสามคนดังกล่าวได้เซ็นชื่อไว้ข้างล่างเอกสารหมาย จ.2จึงฟังได้ว่านายเสียน นายแร่ นายขุนมีฐานะเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของนางสังวาลย์ด้วยแล้ว เอกสารหมาย จ.2 จึงรับฟังเป็นพยานว่านางสังวาลย์ได้มาทำหนังสือรับรองว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จริงได้

ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า เอกสารหมาย จ.2 มิได้ปิดอากรแสตมป์จึงรับฟังเป็นพยานไม่ได้นั้น เห็นว่า เอกสารนี้ไม่ใช่เป็นสัญญาเช่าเพราะเอกสารหมาย จ.2มีใจความแต่เพียงว่านางสังวาลย์ขอเช่าที่พิพาทต่อไป หากโจทก์ต้องการใช้ที่ดินเมื่อใดก็ยินดีจะคืนให้ ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการเช่าอื่น ๆ เลย และผู้เช่าไม่ได้ตกลงจะให้ค่าเช่าแก่โจทก์ ฉะนั้นลักษณะของเอกสารหมาย จ.2 จึงไม่ใช่สัญญาเช่า แต่เป็นเพียงหนังสือที่นางสังวาลย์รับรู้สิทธิของโจทก์ในที่ดินพิพาทเท่านั้น จึงไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ดังที่จำเลยฎีกา ที่ศาลอุทธรณ์รับฟังเอกสารหมาย จ.2 แล้ววินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยเพิ่งมาอยู่ภายหลังตอนที่ได้นางสังวาลย์เป็นภรรยาจึงชอบแล้ว”

พิพากษายืน

Share