คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จะซื้อขายที่ดินและตึกแถว เพียงแต่มีหลักฐานเป็นหนังสือแสดงว่าได้มีการจะซื้อขายกันจริงก็เป็นการเพียงพอเพราะกฎหมายมิได้บังคับว่าต้องทำสัญญาเป็นหนังสือ

ย่อยาว

คดีได้ความว่า จำเลยที่ 1 ตกลงขายที่ดินและห้องแถวให้แก่โจทก์ด้วยวาจา ตามราคาที่ฟ้อง แล้วจำเลยที่ 1 มอบเอกสารท้ายฟ้องไปให้อำเภอประกาศโฆษณารังวัด เพราะเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ มีแต่หนังสือสัญญาซื้อขายของอำเภอเท่านั้น ต่อมาจำเลยบิดพลิ้วไม่ปฏิบัติตามสัญญา โจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า หนังสือของจำเลยถึงคณะกรมการอำเภอนั้นไม่ใช่คำมั่นในการซื้อขาย หรือสัญญาจะซื้อขาย โจทก์ไม่มีสิทธิจะบังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินรายพิพาทนี้ได้ พิพากษากลับศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าปัญหาที่จะต้องพิเคราะห์ก็คือหนังสือที่จำเลยมีไปถึงกรมการอำเภอนั้น จะเป็นหลักฐานแห่งสัญญาซื้อขายรายนี้โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หนังสือฉบับที่ว่านี้มีข้อความดังนี้เรียนคณะกรมการอำเภอเมืองอุบล

ด้วยข้าพเจ้า นางพวง สุระพัฒน์ มีที่ดินอยู่ 1 แห่ง พอใจจะขายให้แก่นายพ่วง สมหมาย คือ ตึก 2 ชั้น แต่ห้องเลขที่ 1142-46 เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงได้เขียนคำร้องมายังคณะกรมการอำเภอเพื่อขอร้องให้เจ้าหน้าที่ไปทำการรังวัดด้วยแล้วแต่จะกรุณา แล้วเซ็นชื่อจำเลย

ศาลฎีกาเห็นว่าหนังสือของจำเลยที่มีถึงกรมการอำเภอฉบับนี้เป็นหลักฐานอันเพียงพอตามกฎหมายแล้ว เพราะแสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยโดยชัดแจ้งว่า ได้ตกลงขายที่พิพาทนี้ให้แก่โจทก์ กฎหมายในเรื่องนี้ประสงค์ให้มีหลักฐานเป็นหนังสือเท่านั้นไม่ใช่ต้องทำสัญญาเป็นหนังสือ และที่กฎหมายบัญญัติถึงการวางประจำหรือการชำระหนี้บางส่วน ก็ให้เป็นการใช้ได้นั้น ก็ย่อมเห็นความประสงค์ของกฎหมายในเรื่องนี้ว่า หากจะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือเพียงแต่มีการกระทำดังว่า เพื่อแสดงให้เห็นเจตนาชัดแจ้งก็พอแล้วพิพากษากลับให้จำเลยขายที่ดินให้โจทก์ตามสัญญา

Share