คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2470

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าทุกข์ฟ้องเองฟ้องเคลือบคลุม ตำรวจนครบาลไม่ใช่นิติบุคคลเจ้าทุกข์มีอำนาจฟ้องผู้ที่ประมาทตนได้โดยลำพัง พ.ร.บ. ว่าด้วยหน้าที่ราชการเกี่ยวข้องกันระหว่างกระทรวงนครบาลแลกระทรวงยุติธรรม ร.ศ.116 ม. 3 แล ธรรมนูญศาลยุติธรรม 127 ม.35 ข้อ 4 มิได้ตัดอำนาจเจ้าทุกข์ แต่เจ้าทุกข์นั้นต้องเปนบุคคลตามกฎหมายแลในฟ้องต้องกล่าวว่าหมิ่นประมาทผู้ใดให้ชัดเจนมิฉะนั้นเปนฟ้องเคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ – ๒๘๒ ฐานลงข่าวหมิ่นประมาทโจทก์ในหนังสือพิมพ์รายวัน
ศาลฎีกาตัดสินยืนศาลอุทธรณ์ว่า ที่ศาลโปริสภาสั่งให้โจทก์ฟ้องจำเลยแลศาลอาญา วินิจฉัยว่าตำรวจนครบาลมีอำนาจฟ้องได้แต่มีศาลโปริสภาเท่านั้น ไม่มีอำนาจเปนโจทก์ในศาลอื่น ๆ ได้ ควรส่งสำนวนให้กรมอัยการดำเนินคดีต่อไปนั้นย่อมไม่ชอบด้วยทางพิจารณา เพราะคดีนี้ตำรวจนครบาลเสมือนเอกชนผู้เจ้าทุกข์ พ.ร.บ. ว่าด้วยหน้าที่ราชการซึ่งเกี่ยวข้องกันอยู่ระหว่างกระทรวงนครบาลแลกระทรวงยุติธรรม ร.ศ. ๑๑๖ นั้นไม่ตัดสิทธิเจ้าทุกข์ที่จะฟ้องร้องเอง แลพระธรรมนูญศาลยุตติธรรม ร.ศ. ๑๒๗ มาตรา ๓๕ ข้อ ๔ ที่ว่าคดีมีโจทก์อยู่แล้ว อัยการจะรวมเปนโจทก์ด้วยก็ได้นั้น แต่ถ้าอัยการไม่รวมเปนโจทก์ด้วยดังคดีนี้ ก็ไม่ตัดสิทธิเจ้าทุกข์ที่จะฟ้องร้อง แต่เจ้าทุกข์ที่จะเปนโจทก์ได้ต้องเปนบุคคลตามกฎหมาย ส่วนตำรวจนครบาลนั้นไม่ใช่บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลตามประมวลแพ่ง ม. ๗๒ – ๗๓ จึงไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม. ๒๘๒ แห่งกฎหมายอาญาได้ อนึ่งคดีนี้ฟ้องของโจทก์ไม่ชัดเจนเปนแต่กล่าวรวม ๆ ว่า จำเลยหมิ่นประมาทคนหมู่ใหญ่หมู่หนึ่ง (คือตำรวจนครบาล) ซึ่งเปนการพ้นวิสัยที่ จำเลยจะต่อสู้คดีให้ถูกต้องได้ คดีไม่เข้าบท ม. ๑๑๖ แห่งกฎหมายอาญา ให้ยกฟ้องโจทก์เสีย ฯ

Share