คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5482/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บ. ผู้รับพินัยกรรม ถึงแก่ความตายไปก่อนผู้ตาย ข้อกำหนดในพินัยกรรมที่ยกทรัพย์ให้ บ. จึงตกไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1698 ทรัพย์มรดกในส่วนนี้ตกได้แก่ทายาทโดยธรรม ผู้คัดค้านเป็นบุตรบุญธรรมเป็นผู้มีส่วนได้เสีย และไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมาย มีเหตุสมควรที่จะร่วมเป็นผู้จัดการมรดกกับผู้ร้อง

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นน้องร่วมมารดากับนางนวลจันทร์ ยิ้มสนิท ผู้ตาย ก่อนจะถึงแก่ความตาย ผู้ตายทำพินัยกรรมยกที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่นางบุญปั๋น โกสลากรนางบุญมี หวังดี นางตี๋ สุวรรณตระกูล และผู้ร้อง โดยให้ได้รับส่วนแบ่งคนละเท่า ๆ กัน ผู้ร้องได้ไปติดต่อกับเจ้าพนักงานเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดกของผู้ตายแก่ทายาทแต่เจ้าพนักงานแจ้งว่าต้องมีคำสั่งศาลตั้งผู้จัดการมรดกเสียก่อนจึงจะจัดการโอนให้ได้ ผู้ร้องไม่เป็นผู้ต้องห้ามตามกฎหมายที่จะเป็นผู้จัดการมรดก
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นบุตรบุญธรรมของผู้ตาย ผู้ตายไม่เคยทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้ผู้ใดพินัยกรรมตามคำร้องเป็นพินัยกรรมปลอม ผู้ร้องไม่มีสิทธิรับมรดกไม่มีสิทธิขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้อง และตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษา ตั้งให้นางประมวญ เด็ดขาดผู้ร้อง และนางสมศรี อัคคีสุริยน ผู้คัดค้าน ร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของนางนวลจันทร์ ยิ้มสนิท ผู้ตาย ให้ผู้ร้องกับผู้คัดค้านมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
ผู้ร้องและผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
ผู้ร้องและผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาผู้ร้องมีว่า สมควรตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นางบุญมี หวังดี ผู้รับพินัยกรรมตามเอกสารหมาย ร.5 ถึงแก่ความตายไปก่อนผู้ตาย ข้อกำหนดในพินัยกรรมที่ยกทรัพย์ให้นางบุญมีจึงต้องตกไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1698 ทรัพย์มรดกของผู้ตายในส่วนนี้ตกได้แก่ทายาทโดยธรรมเมื่อผู้คัดค้านเป็นบุตรบุญธรรมเป็นผู้มีส่วนได้เสีย และไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมาย จึงมีเหตุสมควรที่จะร่วมเป็นผู้จัดการมรดกกับผู้ร้อง ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share