คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องว่าจำเลยบังอาจลักไม้สักที่เจ้าพนักงานป่าไม้อำเภอเมืองยึดไว้เป็นของกลางในคดีอาญา ซึ่งบุคคลอื่นต้องหาว่าตัดฟันไม้สักรายนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานไป ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ แม้จะไม่ได้บรรยายว่า จำเลยลักไม้นั้นไปจากใคร ผู้ใดเป็นผู้ควบคุมรักษา และไม่ปรากฎว่าไม้นั้นยึดจากใคร ก็ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่มีข้อความบรรยายมาพอสมควรที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจลักไม้สักที่เจ้าพนักงานป่าไม้อำเภอยึดไว้เป็นของกลางในคดีอาญา ซึ่งบุคคลอื่นต้องหาว่าตัดฟันไม้สักนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต จากเจ้าพนักงานไปขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๘๘, ๒๙๐
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในข้อที่ว่าฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่นั้น เห็นพ้องกับศาลล่างทั้งสองว่า ตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง พอสมควรที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
ส่วนข้อเท็จจริง ฟังว่าจำเลยลักไปจริง
จึงพิพากษายืน

Share