แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีฉ้อโกงเงินนั้น เมื่อผู้ถูกหลอกลวงเชื่ออุบายจำเลยได้จ่ายเงินให้แก่ฝ่ายจำเลย จะเป็นเงินของผู้ถูกหลอกลวงเองหรือหยิบยืมมาจากใครจะทำเป็นหนังสืออย่างใดหรือไม่ก็ตาม ก็เรียกได้ว่าผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายโดยตรง มีอำนาจที่จะร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ฐานฉ้อโกงเงิน 20,000 บาทของนายมณีไป จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304 จำคุก 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า นายมณีผู้ร้องทุกข์ในคดีนี้ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยเงิน 20,000 บาทนั้นเป็นของพี่สาวนายมณีไปยืมมาจากนายโอมายและรับเงินไปในลักษณะกู้ยืม
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงคงฟังได้ว่าจำเลยได้หลอกลวงนายมณี ๆ ได้เชื่ออุบายของจำเลย ได้จ่ายเงินให้แก่ฝ่ายจำเลยจะเป็นเงินของนายมณีเอง หรือหยิบยืมมาจากใคร จะทำเป็นหนังสืออย่างใดหรือไม่ก็ตาม ก็เรียกได้ว่านายมณีเป็นผู้เสียหายโดยตรงมีอำนาจที่จะร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย
พิพากษายืน