คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2548

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

กระบือ ๑๓ ตัว หายไปจากทุ่งเลี้ยงตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงวัน น. พยานโจทก์ไปตามคืนมาได้ 11 ตัว เมื่อเวลาประมาณ 17 นาฬิกา แสดงว่ากระบือ 2 ตัว สูญหายไปในเวลากลางวัน แม้จะมีการขนถ่ายขึ้นรถยนต์บรรทุกของ ณ ในตอนค่ำ ก็เป็นเวลาหลังจากการลักกระบือสำเร็จลงแล้ว เหตุจึงมิได้เกิดในเวลากลางคืน การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงความผิดตาม ป.อ. มาตรา 335 (7) วรรคสาม ประกอบมาตรา 336 ทวิ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 336 ทวิ, 83 ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 30,000 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) (7), 335 วรรคสาม (ที่ถูกเป็นมาตรา 335 (1) (7) วรรคสาม) ประกอบมาตรา 336 ทวิ จำคุกคนละ 7 ปี 6 เดือน ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 30,000 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงวัน กระบือรุ่นของผู้เสียหายหายไปจากทุ่งเลี้ยงทั้ง 13 ตัว ทั้งที่ทาสีขาวเป็นตำหนิไว้ครึ่งเขาเหมือนกันทุกตัว ต่อมานายนาวินตามไปพบกระบือฝูงนั้น 11 ตัว ที่ท้ายบ้านดอนสวรรค์ห่างจากทุ่งเลี้ยง 3 ถึง 4 กิโลเมตร จึงต้อนกลับเข้าคอกเมื่อเวลาประมาณ 17 นาฬิกา แต่ไม่พบกระบือเพศเมียสีดำอีก 2 ตัว ราคา 30,000 บาท ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันลักกระบือเพศเมีย 2 ตัวนั้นไปหรือไม่ โจทก์มีนายจอมจักรวาลผู้เสียหาย นายนาวิน และนายณรงค์เป็นพยานเบิกความว่า นายนาวินซึ่งทำหน้าที่เลี้ยงกระบือรู้ว่ากระบือรุ่นทั้ง 13 ตัว หายไปจากทุ่งเลี้ยงเมื่อเวลาประมาณเที่ยงวัน จึงรายงานผู้เสียหายและออกติดตามไปในท้องทุ่ง ส่วนผู้เสียหายขับรถยนต์ตามหา นายนาวินตามไปพบกระบือรุ่น 11 ตัว ที่ท้ายบ้านดอนสวรรค์ห่างจากทุ่งเลี้ยง 3 ถึง 4 กิโลเมตร จึงต้อนกลับมาเมื่อเวลาประมาณ 17 นาฬิกา ขาดกระบือรุ่นสีดำเพศเมีย 2 ตัว ผู้เสียหายไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านไว้ จนกระทั่งวันที่ 10 เมษายน 2544 จึงสอบถามได้ความจากนายแววว่า เห็นชาย 4 คน ช่วยกันต้อนกระบือ 2 ตัว ขึ้นรถยนต์บรรทุกหกล้อของนายณรงค์ แถวบ้านดอนสวรรค์ในค่ำวันเกิดเหตุ นายณรงค์เบิกความรับว่า ค่ำวันเกิดเหตุจำเลยทั้งสามกับนายฮองจ้างนายณรงค์บรรทุกกระบือสีดำ เพศเมีย 2 ตัว มีตำหนิเป็นสีขาวครึ่งเขาจากกระท่อมของจำเลยที่ 1 ที่ตำบลโคกมั่งงอย อำเภอดอนสวรรค์ ไปผูกทิ้งไว้ในบริเวณที่ไม่มีบ้านคน ห่างจากหมู่บ้านหนองบัวลายประมาณ 3 กิโลเมตร เห็นว่า แม้ประจักษ์พยานโจทก์ที่รู้เห็นเหตุการณ์แต่ละช่วงในวันเกิดเหตุจะเป็นพยานเดี่ยวที่ศาลต้องรับฟังด้วยความระมัดระวังยิ่ง แต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นได้ว่าคำเบิกความของพยานโจทก์แต่ละปากดังกล่าวต่างเบิกความสมเหตุผลและเชื่อมโยงกันโดยตลอดตามลำดับเหตุการณ์ ผู้เสียหายกับนายแววไม่เคยรู้จักจำเลยทั้งสามมาก่อน ส่วนนายณรงค์นั้นรู้จักคุ้นเคยกับจำเลยทั้งสามเป็นอย่างดี เพราะเคยรับจ้างบรรทุกสินค้าให้จำเลยเหล่านั้นมาก่อน แต่ก็ไม่เคยมีสาเหตุบาดหมางกัน ไม่มีเหตุพึงระแวงว่านายณรงค์จะกุเรื่องใส่ความจำเลยทั้งสามให้เสียหายแก่ทางทำมาหากินของตน นอกจากตำหนิรูปพรรณของกระบือเพศเมียทั้ง 2 ตัว ที่จำเลยทั้งสามกับพวกจ้างนายณรงค์ขนย้ายในวันเกิดเหตุจะตรงกับตำหนิรูปพรรณกระบือเพศเมีย 2 ตัว ของผู้เสียหายที่หายไปในละแวกนั้นในวันเดียวกันแล้ว พฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 กับนายฮองนำกระบือ 2 ตัว นั้นลงจากรถยนต์บรรทุกไปผูกทิ้งไว้ห่างจากหมู่บ้านถึง 3 กิโลเมตร ในบริเวณที่ไม่มีบ้านเรือนโดยไม่กลัวการสูญหาย ทั้งที่เป็นเวลากลางคืนเช่นนั้น แสดงให้เห็นความผิดปกติ เมื่อพิจารณาประกอบคำพยานโจทก์ข้างต้นแล้วทำให้พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง รับฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยทั้งสามร่วมกับพวกลักกระบือเพศเมีย 2 ตัว ของผู้เสียหายไป พยานฐานที่อยู่ของจำเลยทั้งสามไม่พอหักล้างพยานโจทก์ อย่างไรก็ตามข้อเท็จจริงได้ความชัดเจนว่ากระบือรุ่นหายไปจากทุ่งเลี้ยงตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงวัน นายนาวิน พยานโจทก์ไปตามคืนมาได้ 11 ตัว เมื่อเวลาประมาณ 17 นาฬิกา แสดงว่ากระบือรุ่นสีดำเพศเมีย 2 ตัว สูญหายไปในเวลากลางวัน แม้จะมีการขนถ่ายขึ้นรถยนต์บรรทุกของนายณรงค์ในตอนค่ำ ก็เป็นเวลาหลังจากการลักกระบือรายนี้สำเร็จลงแล้วเหตุจึงมิได้เกิดในเวลากลางคืน การกระทำของจำเลยทั้งสามในส่วนนี้จึงเป็นเพียงความผิดตามมาตรา 335 (7) วรรคสาม ประกอบมาตรา 336 ทวิ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกฟ้องนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (7) วรรคสาม ประกอบมาตรา 336 ทวิ ลงโทษจำคุกคนละ 5 ปี 6 เดือน ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 30,000 บาท แก่ผู้เสียหาย

Share