แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มาตรา 1727 วรรคแรก บัญญัติให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกได้โดยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 กรณีคือ กรณีแรกเพราะเหตุผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่กรณีที่สองเพราะเหตุอย่างอื่นที่สมควร กรณีที่สองนี้มิได้จำกัดว่าจะต้องเป็นการกระทำโดยมิชอบอย่างใดอย่างหนึ่งในการทำหน้าที่ผู้จัดการมรดก แต่หมายความรวมถึงเหตุอื่นใดก็ได้ที่ทำให้ผู้จัดการมรดกไม่ควรเป็นผู้จัดการมรดกต่อไป เช่น การเป็นผู้ไม่มีสิทธิขอเป็นผู้จัดการมรดก หรือการขาดคุณสมบัติของผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดกเป็นต้น ซึ่งเหตุเช่นว่านี้อาจมีอยู่แล้วในขณะที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกหากแต่ในขณะนั้นยังไม่ปรากฏต่อศาลก็ได้ แม้ผู้คัดค้านจะมิได้อ้างในคำร้องคัดค้านว่าผู้ร้องละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ผู้จัดการมรดกก็ตาม แต่ก็อ้างเป็นใจความว่าผู้ร้องมิได้เป็นผู้มีสิทธิหรือผู้มีส่วนได้เสียอันจะมีสิทธิยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกเพราะไม่มีทรัพย์มรดกที่จะต้องจัดการเนื่องจากทรัพย์มรดกคือที่ดิน 1 แปลงตามที่ระบุในคำร้องของผู้ร้องนั้นเป็นของผู้คัดค้านทั้งสอง อันเป็นเหตุอย่างอื่นที่ทำให้ผู้ร้องไม่ควรเป็นผู้จัดการมรดกต่อไป การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องคัดค้านว่าไม่ใช่เรื่องขอให้เพิกถอนเพราะผู้จัดการมรดกทำผิดหน้าที่จึงไม่ชอบ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะรับ คำร้อง ของ ผู้คัดค้านทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป.
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องให้เป็นผู้จัดการมรดกไม่มีพินัยกรรมของพระภิกษุแดง สิมละคร ผู้มรณภาพโดยมีทรัพย์มรดกเป็นที่ดิน 1 แปลง ตาม น.ส.3 ก. เลขที่ 1137ตำบลเวียงสะอาด อำเภอพยัคฆภูมิพิสัยจังหวัดมหาสารคาม
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องว่าที่ดินดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์มรดกของพระภิกษุแดง แต่เป็นทรัพย์สินของผู้คัดค้านทั้งสอง ผู้ร้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินดังกล่าว จึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก ขอให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดก
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามคำร้องเป็นเรื่องอ้างว่า น.ส.3 ก.เลขที่ 1137 ไม่ใช่ทรัพย์มรดกของเจ้ามรดก จึงไม่อาจร้องในคดีนี้ได้ไม่ใช่เรื่องขอให้เพิกถอนเพราะผู้จัดการมรดกทำผิดหน้าที่ให้ยกคำร้อง
ผู้คัดค้านทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องของผู้คัดค้านทั้งสองไว้ดำเนินการต่อไป และมีคำสั่งหรือคำพิพากษาตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาล ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1727 วรรคแรก ได้บัญญัติไว้ว่า ผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนจะร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดก เพราะเหตุผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่หรือเพราะเหตุอย่างอื่นที่สมควรก็ได้ โดยทำเป็นคำร้องขอก่อนการปันมรดกเสร็จสิ้น ตามบทบัญญัติดังกล่าวหมายความว่าให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกได้โดยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 กรณี คือกรณีแรกเพราะเหตุผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ กรณีที่สองเพราะเหตุอย่างอื่นที่สมควรสำหรับกรณีที่สองนั้นมิได้จำกัดว่าจะต้องเป็นการกระทำโดยมิชอบอย่างใดอย่างหนึ่งในการทำหน้าที่ผู้จัดการมรดก เช่น การยักยอกทรัพย์มรดก เป็นต้น เท่านั้น แต่ย่อมหมายความรวมถึงเหตุอื่นใดก็ได้ที่ทำให้ผู้จัดการมรดกไม่ควรเป็นผู้จัดการมรดกต่อไป เช่นการเป็นผู้ไม่มีสิทธิขอเป็นผู้จัดการมรดกหรือการขาดคุณสมบัติของผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดกเป็นต้น ซึ่งเหตุเช่นว่านี้อาจมีอยู่แล้วในขณะที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก หากแต่ในขณะนั้นยังไม่ปรากฏต่อศาลก็ได้ ตามคำร้องของผู้คัดค้านทั้งสองนั้น แม้ผู้คัดค้านทั้งสองจะมิได้อ้างว่าผู้ร้องละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ผู้จัดการมรดกแต่ก็อ้างเป็นใจความว่า ผู้ร้องมิได้เป็นผู้มีสิทธิหรือผู้มีส่วนได้เสียอันจะมีสิทธิยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกเพราะไม่มีทรัพย์มรดกที่จะต้องจัดการเนื่องจากทรัพย์มรดกคือที่ดิน 1 แปลงตามที่ระบุในคำร้องของผู้ร้องนั้นเป็นของผู้คัดค้านทั้งสองอันเป็นเหตุอย่างอื่นที่ทำให้ผู้ร้องไม่ควรเป็นผู้จัดการมรดกต่อไปจึงชอบที่ศาลชั้นต้นจะรับคำร้องของผู้คัดค้านทั้งสองไว้พิจารณาส่วนจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกตามคำร้องหรือไม่ย่อมแล้วแต่ข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความว่ามีเหตุสมควรดังที่กล่าวในคำร้องนั้นหรือไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษาให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องของผู้คัดค้านทั้งสองไว้ดำเนินการต่อไปและมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน.