แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การถอนฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะอนุญาตหรือไม่ประการใดแล้วแต่ ศาลอุทธรณ์จะพิจารณาเห็นสมควร ที่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้จำเลย ถอนฟ้องอุทธรณ์นั้น เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะทำได้
(อ้างฎีกาที่775/2510)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕, ๓๓๖ ทวิ, ๘๓ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๑๑ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔ ข้อ ๑๓ ริบเรือยนต์ของกลาง และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ๓,๐๐๐ บาท ให้ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕, ๓๓๖ ทวิ, ๘๓ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๑๑ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔ ข้อ ๑๓ ลงโทษจำคุกจำเลยคนละ ๓ ปี และให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ๓,๐๐๐ บาท ให้ผู้เสียหาย เรือยนต์ของกลางไม่ริบคืนให้เจ้าของ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ต่อมาจำเลยทั้งสองร้องขอถอนฟ้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า ศาลอุทธรณ์ทำคำพิพากษาเสร็จแล้วไม่อนุญาตให้ถอนอุทธรณ์ แล้ววินิจฉัยว่า คดีโจทก์ยังมีเหตุแห่งความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยทั้งสองได้กระทำความผิดหรือไม่ เห็นสมควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยทั้งสอง พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่โจทก์ฎีกาว่าคดีนี้จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอถอนฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องอุทธรณ์เป็นการไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าการถอนฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตประการใดแล้วแต่ศาลอุทธรณ์จะเห็นสมควร ฉะนั้น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้จำเลยถอนฟ้องอุทธรณ์นั้น เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะทำได้ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๗๗๕/๒๕๑๐ คดีระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ โจทก์ นายกิม แซ่โค้วกับพวก โจทก์ร่วม นายเฉลิม พ่วงจ้อย จำเลย ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันเอาเครื่องลายครามของวัดไผ่ล้อมที่ซุกซ่อนไว้ใต้สะพานไปดังโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองจึงมีความผิดตามฟ้อง
พิพากษากลับ จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยมาตรา ๓๓๖ ทวิ, ๘๓ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๑๑ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔ ข้อ ๑๓ ทรัพย์มีราคาไม่มากนักเห็นสมควรให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนดคนละ ๒ ปี ให้จำเลยร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ๓,๐๐๐ บาทแก่ผู้เสียหาย คืนเรือยนต์ของกลางแก่เจ้าของ