คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5450/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยฎีกาว่า มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาและยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในกำหนด 6 เดือน นับแต่วันที่ได้มีการบังคับตามคำพิพากษานั้น เป็นการฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อคดีปรากฏในชั้นไต่สวนคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ว่า ที่ดินที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกไปนั้น คงเหลือที่พิพาทซึ่งอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ดินโจทก์ ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 25368ตำบล เขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เนื้อที่ 1 งาน67 เศษ 2 ส่วน 10 ตารางวา ส่งมอบที่ดินแก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อยและห้ามมิให้จำเลยทั้งสองเกี่ยวข้องกับที่ดินดังกล่าวต่อไปจำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นดำเนินคดีไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองและบริวารขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินโจทก์ และห้ามมิให้จำเลยทั้งสองเกี่ยวข้องกับที่ดินดังกล่าว
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ว่า ฟ้องโจทก์ไม่เป็นความจริงกล่าวคือ ที่ดินพิพาทพร้อมบ้านเลขที่ 80 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินเป็นของจำเลยที่ 2 และบุตรโดยนาง ห้อง ถิรวุธ ยายจำเลยที่ 2 ยกให้เมื่อปี 2511 แต่ตกลงใส่ชื่อโจทก์แทนจำเลยที่ 2และบุตรเพื่อป้องกันไม่ให้จำเลยที่ 1 สามีจำเลยที่ 2 บังคับให้จำหน่ายจ่ายโอน โจทก์จึงไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์และไม่มีอำนาจฟ้องโจทก์ส่งสำเนาคำฟ้อง หมายเรียกและหมายนัดให้แก่จำเลยทั้งสองโดยวิธีปิดหมายจำเลยทั้งสองไม่ได้รับและไม่ทราบเพราะเมื่อเดือนเมษายน 2533 จำเลยทั้งสองทะเลาะกันแล้วแยกทางกัน จำเลยที่ 1กลับภูมิลำเนาเดิม จำเลยที่ 2 ไปรับจ้างกรีดยางพาราตามอำเภอต่าง ๆจำเลยที่ 2 เพิ่งทราบว่าถูกฟ้องเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2533โดยทราบจากคำบังคับของศาล จึงติดตามไปบอกจำเลยที่ 1 หากจำเลยทั้งสองได้ยื่นคำให้การและต่อสู้คดีก็จะชนะคดี
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยทั้งสองคงมีภูมิลำเนาตามฟ้องและได้ทราบคำฟ้องของโจทก์โดยวิธีปิดหมายแล้ว แต่จำเลยทั้งสองจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยทั้งสองฎีกาขอให้พิจารณาใหม่โดยอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดพิจารณา และยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในกำหนด 6 เดือน นับแต่วันที่ได้มีการบังคับตามคำพิพากษานั้นเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารออกจากที่ดินโจทก์ ซึ่งมีเนื้อที่ 1 งาน 67 เศษ 2 ส่วน 10 ตารางวา แต่ในชั้นไต่สวนคำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสอง ได้ความว่า เดิมที่ดินตามฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของที่ดิน ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ หลังจากนาง ห้อง ถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ได้จัดการแบ่งขายให้แก่บุคคลอื่นไปเกือบหมด คงเหลือที่ดินเฉพาะที่ปลูกสร้างบ้านซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ60 ตารางวา ดังนี้ แม้ข้อเท็จจริงตามสำนวนจะไม่ปรากฏว่า ที่ดินที่พิพาทกันอาจให้เช่าในขณะยื่นคำฟ้องเกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาทหรือไม่ แต่ที่ดินพิพาทอยู่ที่ตำบล เขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลาจังหวัดสงขลา ขณะพิพาทเหลือที่ดินอยู่ประมาณ 60 ตารางวา ไม่ปรากฏว่าเป็นที่อยู่ในทำเลการค้าอันจะทำให้ได้ค่าเช่าที่ดินสูงเป็นพิเศษอย่างใด เห็นได้ว่าที่พิพาทอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาทที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่าจำเลยทั้งสองมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา และยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในกำหนด 6 เดือนนับแต่วันที่ได้มีการบังคับตามคำพิพากษานั้น เป็นฎีกาในข้อเท็จจริงฎีกาของจำเลยทั้งสองจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2534 มาตรา 18ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาของจำเลยทั้งสอง

Share