คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2328/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยพาหญิงผู้เยาว์อายุ 16 ปีไปจากผู้ปกครองโดยหญิงเต็มใจเพื่อจดทะเบียนสมรส แต่ถูกจับเสียก่อน ไม่ปรากฏว่าจำเลยมีภริยา มิใช่เพื่อการอนาจาร ไม่เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา319 ป. ว. 11 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 ข้อ 12 จำคุก 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยพาผู้เสียหายอายุ 16 ปี ผู้เยาว์ซึ่งอยู่ในความปกครองของนายชาญ เสนาะสันติ์ บิดาออกจากบ้านไปพักอยู่ที่บ้านตำบลพัทยา แล้วจำเลยกับผู้เสียหายได้เสียกัน

ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยคงมีว่า จำเลยกระทำผิดฐานพรากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้เยาว์ไปจากบิดา เพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319หรือไม่

ได้ความว่าผู้เสียหายรู้จักจำเลยมาก่อนเกิดเหตุ จำเลยเคยไปบ้านผู้เสียหายเสมอ ๆ ผู้เสียหายเข้าใจว่าจำเลยรักและชอบพอผู้เสียหาย เมื่อจำเลยบวชเป็นพระภิกษุ ผู้เสียหายไปมาหาสู่ติดต่อกับจำเลยดังที่ปรากฏตามภาพถ่ายเอกสารหมาย ล.1 ซึ่งผู้เสียหายได้ถ่ายร่วมกับจำเลยในขณะที่บวชเป็นพระภิกษุ เมื่อจำเลยสึกจากพระภิกษุแล้ว จำเลยได้พาผู้เสียหายไปค้างคืนที่บ้านพี่สาวจำเลยที่ตำบลพัทยาแล้วจำเลยกับผู้เสียหายได้เสียกัน พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่า จำเลยกับผู้เสียหายมีความรักใคร่ในทางชู้สาวกันมาก่อนผู้เสียหายก็เต็มใจไปกับจำเลยเมื่อได้พิเคราะห์จดหมายเอกสารหมาย ล.2 ซึ่งเป็นจดหมายของผู้เสียหายที่เขียนถึงจำเลยภายหลังที่จำเลยถูกจับตัวแล้วกับคำเบิกความของจำเลยที่ว่า จำเลยกับผู้เสียหายจะไปจดทะเบียนสมรสกันในวันรุ่งขึ้น แต่จำเลยถูกเจ้าพนักงานจับตัวเสียก่อนมาประกอบด้วยแล้วก็เชื่อว่า การที่จำเลยพรากผู้เสียหายไปจากบิดาแล้วได้เสียกันโดยผู้เสียหายเต็มใจ ก็โดยมีเจตนาจะอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยามิใช่เพื่อการอนาจารและไม่ปรากฏว่าจำเลยมีภรรยา การกระทำของจำเลย จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319”

พิพากษายืน

Share