คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ได้มอบนาให้จำเลยครอบครองแทนการชำระหนี้เงินกู้ ดั่งนี้ การครอบครองของโจทก์ย่อมสิ้นสุดลงตามมาตรา 1377 แห่ง ป.พ.พ. จำเลยจึงไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือครอบครองต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1381 แต่อย่างใด.

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณ ๗-๘ ปีมานี้ โจทก์กู้เงินจำเลย ๕,๐๐๐ บาท ได้มอบนาเนื้อที่ประมาณ ๕ ไร่ ราคา ๑๐,๐๐๐ บาท ให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ครั้นเมื่อประมาณ ๒-๓ ปีมานี้ โจทก์ขอไถ่ถอนที่นารายนี้ จำเลยขอผัด ครบกำหนดโจทก์ขอไถ่ถอนอีก แต่จำเลยไม่ยอม ขอให้พิพากษาบังคับให้จำเลยรับเงิน ๕,๐๐๐ บาท แล้วให้จำเลยส่งมอบที่นาของโจทก์
จำเลยให้การว่าเดิมนาพิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์กู้เงินจำเลยไป ๕,๐๐๐ บาท เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๔ แต่โจทก์ไม่มีเงินคืนให้จำเลย โจทก์ได้มอบนาพิพาทให้จำเลยเป็นการชำระหนี้ โจทก์ได้สละสิทธิครอบครองให้จำเลย และจำเลยได้ครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของมาเป็นเวลา ๑๐ ปีเศษแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเชื่อว่าโจทก์กู้เงินจำเลย ๕,๐๐๐ บาท มอบนาพิพาทให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย แล้วโจทก์ได้สละสิทธิการครอบครองให้จำเลยโดยตีใช้หนี้แทนเงินกู้ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลล่าง และเห็นว่าพยานจำเลยมีน้ำหนักน่าเชื่อดีกว่าพยานโจทก์ จึงฟังว่าโจทก์ได้มอบนาพิพาทให้จำเลยแทนการชำระหนี้เงินกู้สมดังข้อต่อสู้ของจำเลย ในข้อที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยนำสืบรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยได้บอกกล่าวให้โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีเจตนายึดถือทรัพย์สินแทนโจทก์ต่อไปตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๓๘๑ เห็นว่า เมื่อฟังข้อเท็จจริงว่า ต่อมาโจทก์ได้มอบนาให้จำเลยครอบครองแทนการชำระหนี้เงินกู้ การครอบครองของโจทก์ย่อมสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๓๗๗ แห่ง ป.พ.พ. จำเลยจึงไม่ต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือครอบครองต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๓๘๑ แต่อย่างใด พิพากษายืน.

Share