คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า ทำลายตราหลักเขตป่าสงวนซึ่งเจ้าพนักงานตรีตราประทับไว้ที่ต้นไม้ส้าน ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจได้ว่าเป็นตราที่เจ้าพนักงานประทับไว้ในการปฏิบัติตามหน้าที่ เพื่อเป็นหลักฐานในการยึดอายัดหรือรักษาสิ่งนั้น ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 141
ฟ้องอย่างนี้ศาลย่อมยกฟ้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๐๒ เวลากลางวัน จำเลยทำลายตราหลักเขตป่าสงวนซึ่งเจ้าพนักงานป่าไม้ได้ตีประทับไว้ที่ต้นไม้ส้าน ณ ป่าทุ่งเจ็ดห้างให้เสียหาย ขอให้ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๑๔๑
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า เจ้าพนักงานป่าไม้ตีตราประทับไว้เนื่องจากในการปฏิบัติการตามหน้าที่เพื่อเป็นหลักฐานในการยึด อายัด หรือรักษาสิ่งนั้น ขาดองค์ความผิด ลงโทษจำเลยไม่ได้ ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๑ ที่โจทก์อ้างมาในฟ้องนั้น การ ทำลายตราจะเป็นความผิดก็ต่อเมื่อเป็นตราที่เจ้าพนักงานได้ประทับไว้ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นหลักฐานในการยึด อายัด หรือรักษาสิ่งนั้น ในฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า ทำลายตราหลักเขตป่าสงวนซึ่งเจ้าพนักงานตรีตราประทับไว้ที่ต้นไม้ส้าน ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจได้ว่าเป็นตราที่เจ้าพนักงานประทับไว้ในการปฏิบัติตามหน้าที่ เพื่อเป็นหลักฐานในการยึดอายัดหรือรักษาสิ่งนั้น ส่วนฎีกาโจทก์ว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๑ ศาลน่าจะสั่งให้แก้ฟ้องเสียก่อน นั้น เห็นว่า การกระทำที่โจทก์บรรยายว่า จำเลยได้กระทำผิดนั้น ตามกฎหมายไม่เป็นความผิดแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องเสียได้
พิพากษายืน

Share