แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นผู้จัดหาอาวุธปืนและเครื่องแบบตำรวจให้ผู้ร้ายไปใช้ในการปล้นทรัพย์ต้องมีความผิดฐานสมรู้
กำหนดโทษสำหรับผู้สมรู้กฎหมายบัญญัติว่าให้ลงโทษ 2 ใน 3 จากอาญาที่กฎหมายบัญญัติไว้สำหรับความผิด มิได้ให้ถือเอากำหนดโทษแห่งตัวการเป็นเกณฑ์
จำเลยให้ความช่วยเหลือผู้ร้ายในพระนครแล้วผู้ร้ายไปทำการปล้นทรัพย์ในเขตต์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ซึ่งเป็นศาลที่ชำระตัวการปล้นทรัพย์นั้น มีอำนาจชำระจำเลยซึ่งเป็นผู้สมรู้ในการปล้นได้ด้วย
ย่อยาว
ผู้ร้ายขึ้นปล้นรถไฟด่วนสายใต้ จำเลยได้สมรู้ให้ความอุปการะแก่พวกปล้นโดยไปขอยืมปืนพร้อมด้วยกะสุนและเครื่องแบบตำรวจจากผู้อื่นไปมอบให้ผู้ร้ายใช้ในการปล้นรายนี้โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญามาตรา ๓๐๑-๖๕
ศาลฎีกาตัดสินว่าพฤตติการณ์ของจำเลยเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าจำเลยได้ช่วยให้ผู้ร้ายมีอาวุธติดตัวไปด้วย แม้ผู้ร้ายจะมิได้ใช้ปืนรายนี้ก็ดี ก็เป็นการแน่ว่าอาวุธปืนนั้นเป็นเครื่องมืออันหนึ่งที่ใช้ในการปล้นเป็นการให้ตระเตรียมเพื่อสดวกแก่การปล้น ที่จำเลยว่าศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไม่มีอำนาจพิจารณาคดีนี้เพราะเรื่องของจำเลยเกิดในกรุงเทพฯ นั้น ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยไว้แล้วว่าจำเลยไม่ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้มาแต่แรกถึงอย่างไรก็ดี ความเกิดขึ้นในเขตต์อำนาจของศาลใดท่านให้ชำระที่ศาลนั้น จึงเห็นว่าเหตุการณ์ปล้นเกิดในท้องที่ของศาลจังหวัดประจวบ จำเลยเป็นผู้สมรู้ย่อมชำระในศาลที่ชำระตัวการนั้นเอง ส่วนการกำหนดโทษนั้นเห็นว่ากฎหมายบัญญัติว่าให้ลงโทษ ๒ ใน ๓ จากอาญาที่กฎหมายบัญญัติไว้สำหรับความผิดมิได้ให้ถือเอากำหนดโทษแห่งตัวการเป็นเกณฑ์ จึงพิพากษายืนตามศาลล่างทั้ง ๒ ให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๓๐๑-๖๕