คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไพ่ต่อแต้ม ในคดีผิดพระราชบัญญัติการพะนันศาลจะบังคับให้จำเลยใช้ค่าสินบนนำจับต่อเมื่อปรากฎว่ามีผู้นำจับ เพียงแต่ผู้ไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่ามีคนลักเล่นการพะนันกันที่นั่นที่นี่ไม่เรียกว่ามีผู้นำจับ
ในคดีที่ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ หากศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีคำพะยานหลักฐานในท้องสำนวนแล้วศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นปรับจำเลย 30 บาทศาลอุทธรณ์แก้ให้จำเลยใช้ค่าสินบนนำจับอีก 1 ใน 4 ของค่าปรับด้วย ดังนี้ คู่ความฎีกาได้ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย

ย่อยาว

จำเลยลักเล่นการพะนันไพ่ต่อแต้มเอาทรัพย์กันโดยมิได้รับอนุญาต
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามพ.ร.บ.การพะนัน ม.๑๒ ส่วนข้อที่โจทก์ขอให้จำเลยใช้เงินค่านำจับด้วยนั้น ศาลชั้นต้นฟังว่าเมื่อผู้มาแจ้งความไม่ได้ขอเงินค่าสินบนนำจับ ทั้งไม่ปรากฎว่าตำรวจสัญญาจะให้เงินค่าสินบนนำจับดังนี้ ก็บังคับจำเลยไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าสินบนนำจับ โดยฟังว่าในคดีนี้มีผู้มาแจ้งความนำจับและตาม ม.๑๕ เมื่อสษลพิพากษาลงโทาจำเลยก็ต้องบังคับให้จำเลยใช้ค่านำจับตามกฎหมายทีเดียว ไม่ต้องพิจารณาว่าผู้นำจับขอรับเงินค่าสินบน หรือว่าเจ้าพนักงานสัญญาว่าจะให้ค่านำจับหรือไม่
ศาลฎีกาตัดสินว่าคดีนี้คู่ความฎีกาได้ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น ส่วนข้อเท็จจริงต้องฟังตามศาลอุทธรณ์ แต่ข้อที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่ามีผู้นำจับด้วยนั้นหามีพะยานปากใดเบิกความสนับสนุนด้วยไม่ ศาลฎีกาจึงไม่พึงต้องฟังข้อเท็จจริงนั้นตามศาลอุทธรณ์เมื่อข้อเท็จจริงไม่มีผู้นำจับดังนี้ ก็จะยก ม.๑๕ มาวินิจฉัยไม่ได้ เพราะ ม.๑๕ เป็นบทบังคับให้ค่านำจับแก่ผู้นำจับ จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์โดยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

Share