คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5413/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การประกวดราคาซื้อเครื่องจักรพิพาทมีการเปิดซองประกวดราคาตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2528 แต่คณะกรรมการโจทก์เพิ่งประชุมและมีมติให้จัดซื้อจากจำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2528ก่อนสิ้นกำหนดการยืนราคาสินค้าที่จำเลยที่ 1 แจ้งไว้ในการประกวดราคาเพียง 2 วัน และข้อกำหนดต่าง ๆ ในสัญญาซื้อขายที่โจทก์ทำขึ้นฝ่ายเดียวก็ไม่ได้มีอยู่ในเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคา จำเลยที่ 1 จึงมีสิทธิขอให้แก้ไขข้อสัญญาเหล่านั้นได้ เมื่อโจทก์แก้ไขสัญญาล่าช้า จนกระทั่งเลยกำหนดเวลาในการยื่นราคาสินค้าที่จำเลยที่ 1 ขยายให้และผู้ขายต่างประเทศบอกเลิกการขายแก่จำเลยที่ 1 โจทก์ก็ยังแก้ไขสัญญาไม่เสร็จความล่าช้าในการทำสัญญาจึงไม่ใช่ความผิดของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1จึงไม่ผิดเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคา โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ยื่นซองประกวดราคาขายเครื่องจักรให้โจทก์ แล้วไม่ยอมทำสัญญาซื้อขายกับโจทก์ เป็นการผิดเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคา จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคา แต่โจทก์เป็นฝ่ายผิดเงื่อนไขและข้อตกลงเองซึ่งตรงประเด็นตามคำฟ้อง และเมื่อศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยที่ 1 ผิดเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคาขายเครื่องจักรให้โจทก์หรือไม่ โดยไม่ได้นำคำให้การของที่ 1 ที่ปฏิเสธว่าไม่ได้ยื่นซองประกวดราคามากำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทเพราะเห็นว่าเป็นข้อต่อสู้ที่ไม่เป็นสาระ โจทก์ก็ไม่ได้โต้แย้งคัดค้านการชี้สองสถานไว้ ที่ศาลชั้นต้นให้จำเลยที่ 1 นำสืบตามประเด็นข้อพิพาทดังกล่าวและรับฟังพยานของจำเลยที่ 1 จึงชอบแล้ว หาใช่กรณีที่คำให้การจำเลยที่ 1 ขัดแย้งกันจึงไม่มีประเด็นที่จำเลยที่ 1จะนำสืบตามที่โจทก์ฎีกาแต่อย่างใดไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกาศแจ้งความประกวดราคาซื้อเครื่องล้างบรรจุขวดและปิดฉลากจำนวน 1 เครื่อง จำเลยที่ 1 ยื่นประกวดราคามีจำเลยที่ 2 ทำหนังสือค้ำประกัน โจทก์แจ้งให้จำเลยที่ 1 มาทำสัญญาซื้อขายกับโจทก์ แต่จำเลยที่ 1 ไม่ยอมทำสัญญา เป็นการผิดเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคาข้อ 11 ขอให้บังคับจำเลยที่ 1ที่ 2 ชดใช้เงิน 650,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้ไม่ยอมทำสัญญาเป็นความผิดของโจทก์ที่ทำให้จำเลยที่ 1 ทำสัญญาซื้อขายกับโจทก์ไม่ได้ เพราะโจทก์เพิ่งแจ้งจำเลยที่ 1 ให้ทราบว่าเป็นผู้ชนะการประกวดราคาก่อนวันสุดท้ายของการยืนราคาสินค้าเพียงวันเดียวทั้งยังให้ไปพบเพื่อทำสัญญาในวันสุดท้ายของการยืนราคาสินค้าและสัญญาที่ทำขึ้นก็ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการประกวดราคา จำเลยที่ 1ขอให้โจทก์แก้ไขสัญญา และขยายเวลาการยืนราคาให้จนถึงวันที่ 9เมษายน 2529 แต่สัญญาใหม่มีเงื่อนไขต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอีกมากและอยู่นอกเหนือเงื่อนไขในการประกวดราคา จำเลยที่ 1 จึงไม่ทำสัญญากับโจทก์ และขอให้โจทก์พิจารณาสัญญาใหม่ตามที่ได้ตกลงกันไว้แต่โจทก์ไม่ดำเนินการจนล่วงเลยกำหนดการยืนราคาและราคาสินค้าได้สูงขึ้นอีกมาก โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดเงื่อนไขและข้อตกลงขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่าจำเลยที่ 1 ผิดเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคาซื้อเครื่องจักรหรือไม่ เห็นว่าการประกวดราคาซื้อเครื่องจักรรายนี้มีการเปิดซองประกวดราคาตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2528 แต่คณะกรรมการของโจทก์เพิ่งประชุมและมีมติให้จัดซื้อจากจำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 25ธันวาคม 2528 ก่อนสิ้นกำหนดการยืนราคาสินค้าเพียง 2 วันเท่านั้นข้อสัญญาเรื่องกำหนดเวลาในการแก้ไขความชำรุดบกพร่องเสียหายของเครื่องจักร ค่าใช้จ่าย และหน้าที่ในการเดินท่อน้ำ ท่อไอน้ำท่อน้ำส้มสายชู และสายไฟฟ้า กับการจัดหาวัสดุและพลังงานที่ต้องใช้ในการทดลองเครื่องจักร รวมทั้งวิธีการขนส่ง นำเข้าและการประกันภัยเครื่องจักรที่จำเลยที่ 1 ติดใจเรียกร้องให้มีการแก้ไขสัญญาก็มิได้อยู่ในเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคาอันจะเป็นเหตุให้โจทก์มีสิทธิจะทำสัญญาในข้อเหล่านี้อย่างไรก็ได้ตามอำเภอใจจำเลยที่ 1 จึงชอบที่จะขอให้มีการแก้ไขข้อสัญญาดังกล่าวนั้นได้ปรากฏว่าจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2529 ล่วงเลยกำหนดเวลาในการยืนราคาสินค้าที่จำเลยที่ 1 ยอมขยายให้ และจนผู้ขายต่างประเทศยืนราคาสินค้าต่อไปไม่ได้ และบอกเลิกการขายแก่จำเลยที่ 1 แล้ว โจทก์ก็ยังแก้ไขและทำสัญญาไม่เสร็จ เช่นนี้โจทก์จะอ้างว่าความล่าช้าในการทำสัญญาเกิดจากจำเลยที่ 1 ขอแก้ไขสัญญาไม่ใช่ความผิดของตนหาได้ไม่จำเลยที่ 1 จึงมิได้ผิดเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคา
ที่โจทก์ฎีกาต่อไปว่า ตอนแรกจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ยื่นซองประกวดราคา ตอนหลังกลับให้การรับว่ายื่นซองประกวดราคาเป็นคำให้การที่ขัดแย้งกัน จึงไม่มีประเด็นที่จำเลยที่ 1 จะนำสืบศาลชั้นต้นยอมให้จำเลยที่ 1 นำสืบและรับฟังพยานของจำเลยที่ 1จึงเป็นการไม่ชอบ เห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ยื่นซองประกวดราคาขายเครื่องจักรให้โจทก์ แล้วไม่ยอมทำสัญญาซื้อขายกับโจทก์ เป็นการผิดเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคา จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคา แต่โจทก์เป็นฝ่ายผิดเงื่อนไขและข้อตกลงเองซึ่งตรงประเด็นตามคำฟ้องของโจทก์ และเมื่อศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยที่ 1 ผิดเงื่อนไขและข้อตกลงในการประกวดราคาขายเครื่องจักรให้โจทก์หรือไม่ โดยไม่ได้นำคำให้การของจำเลยที่ 1ที่ปฏิเสธว่าไม่ได้ยื่นซองประกวดราคามากำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทเพราะเห็นว่าเป็นข้อต่อสู้ที่ไม่เป็นสาระ โจทก์ก็มิได้โต้แย้งคัดค้านการชี้สองสถานไว้แต่อย่างใด ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นให้จำเลยที่ 1 นำสืบตามประเด็นข้อพิพาทดังกล่าวและรับฟังพยานของจำเลยที่ 1 จึงชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share