คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อข้อเท็จจริงในท้องสำนวนปรากฏว่า ผู้เสียหายมอบเงินให้แก่ผู้แทนผู้เสียหายไปรับจำนองแทนผู้เสียหาย เพราะเชื่อตามที่ผู้แทนบอกเช่นนี้ และศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าผู้เสียหายหลงเชื่อจำเลย ดังนี้เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงไม่ตรงกับความจริง ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยเสียใหม่ให้ตรงความจริงได้
เมื่อผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์ มิได้เสียหายเนื่องจากหลงเชื่อการกระทำของจำเลยแล้ว ก็ย่อมขาดองค์สำคัญแห่งความผิดฐานฉ้อโกง จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 2 เช่าโฉนดที่ดินเลขที่ 185 จากนายพัน นางสุด เพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ประกันและได้ยักยอกลายมือชื่อนายพัน นางสุดซึ่งเซ็นและพิมพ์ใบมอบอำนาจที่ยังไม่ได้กรอกข้อความ ไปกรอกข้อความให้ผู้อื่นทำสัญญาขายแทนและยักยอกโฉนดนั้นไปทำสัญญาขายกรรมสิทธิ์ให้จำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสามสมคบกันจะเอาโฉนดดังกล่าวไปหลอกลวงฉ้อโกงจำนองผู้อื่นโดยจำเลยที่ 2 ไปติดต่อกับพันโทสลับ ๆ ไปหานายสมพงษ์ ๆ ไปหานายชิน ๆ ให้พระราชเสวกไปดูที่ จำเลยที่ 1 นำชี้หลักเขตซึ่งทำขึ้นแล้วไปปักในที่ของพลตำรวจทองหล่อและนายสวงตามริมถนน พระราชเสวกหลงเชื่อไปแจ้งนายชิน ๆ ไปหานางอุ่น ๆ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงตกลงรับจำนองในราคาสองแสนบาทมอบเงินและเช็คไปให้นายชินเป็นผู้รับจำนองแทนที่หอทะเบียน นายชินมอบเงินและเช็คให้จำเลยที่ 1 สมเจตนาของจำเลยทั้งสาม

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลแขวงพระนครเหนือพิจารณาทำความเห็นส่งศาลอาญา ศาลอาญาพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามผิดตาม มาตรา 304, 63 จำคุกคนละ 1 ปีและให้ใช้เงินแก่ผู้เสียหาย

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสามฎีกาว่าความผิดฐานฉ้อโกงต้องประกอบด้วยองค์ความผิดว่าผู้เสียหายหลงเชื่อและส่งทรัพย์ให้จำเลย เรื่องนี้นางอุ่นผู้เสียหายเชื่อคำหลอกลวงของนายชินมิใช่เชื่อจำเลย และผู้เสียหายส่งทรัพย์ให้นายชินไม่ได้ส่งให้แก่จำเลย

ศาลฎีกาเห็นว่าการที่นางอุ่นมองเงินให้แก่นายชินไปเพื่อรับจำนองแทนนางอุ่นนั้นเพราะเชื่อนายชิน ความยังปรากฏตามคำนางอุ่นอีกว่าความจริงนางอุ่นไม่รู้จักจำเลยและไม่ได้พบตัวจำเลยเลยตามที่ศาลทั้งสองวินิจฉัยว่านางอุ่นหลงเชื่อจำเลยจึงไม่ตรงกับความจริงที่ปรากฏในสำนวน ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยได้ แม้จะปรากฏว่าการกระทำของจำเลยทั้งสามในคดีนี้ส่อแสดงให้เห็นอุบายอันเกิดจากความไม่สุจริตของจำเลยดังที่ศาลทั้งสองวินิจฉัยมาก็ดีเมื่อปรากฏว่านางอุ่นซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์ในคดีนี้มิได้เสียหายเนื่องจากหลงเชื่อการกระทำของจำเลย ซึ่งขาดองค์สำคัญแห่งความผิดฐานฉ้อโกง อันศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายหาได้ไม่

จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share