คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 541/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อมีกฎหมายยกเลิกพระราชบัญญัติมอบอำนาจให้ออกพระราชกฤษฎีกาแล้วพระราชกฤษฎีกานั้นก็ย่อมสิ้นผลบังคับไปด้วย ในกรณีเช่นนี้ จำเลยถูกฟ้องหาว่าได้กระทำความผิด พระราชกฤษฎีกาย่อมได้รับประโยชน์จากกฎหมายยกเลิกนั้นโดยศาลต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยมาบังคับ

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยนำซิกาแรตข้ามเขตจังหวัดไม่ได้รับอนุญาตให้ลงโทษตาม พระราชกฤษฎีกาควบคุมการนำซิกาแรตออกนอกเขตฯ พ.ศ. 2486

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า บทกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยเลิกใช้แล้วสิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์จึงระงับไป พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า พ.ร.ก.ควบคุมการนำซิกาแรตออกนอกเขตท้องที่บางแห่ง พ.ศ. 2486 นั้นได้ออกมาใช้บังคับเป็นกฎหมายได้โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติมอบอำนาจให้รัฐบาลในภาวะคับขับ พ.ศ. 2484 ที่รัฐบาลมีอำนาจประกาศพระราชกฤษฎีกาใช้ในภาวะคับขันได้ บัดนี้ได้มีพระราชบัญญัติยกเลิกกฎหมายบางฉบับซึ่งใช้ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2489 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติมอบอำนาจให้รัฐบาลในภาวะคับขันเสียแล้ว ฉะนั้นพ.ร.ก.ควบคุมการนำซิกาแรตฯนี้จึงเป็นสิ้นผลบังคับตามกฎหมาย กรณีเรื่องนี้จึงต้องด้วยข้อที่ว่าการกระทำของจำเลยเป็นผิดกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะกระทำผิด แต่ไม่มีผิดตามกฎหมายของบ้านเมืองที่ใช้อยู่ในขณะที่ศาลพิจารณา ศาลต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยตามนัย มาตรา 8 แห่งกฎหมายลักษณะอาญาจึงพิพากษายืน

Share