แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยปลอมเอกสาร 7 ฉบับอันเป็นความผิดหลายกรรมรวม 7 กระทง แล้วจำเลยนำเอกสารปลอมทั้ง 7 ฉบับไปใช้ในคราวเดียวกันโดยมีเจตนาใช้เอกสารปลอมนั้นให้มีผลแยกเป็นรายฉบับต่างกัน ดังนี้ จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้เอกสารปลอมดังกล่าวซึ่งต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคสอง รวม 7 กระทง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลอมตั๋วเงินเช็คเดินทาง ๗ ฉบับ แล้วนำไปใช้อ้างแสดงกับนางโสภาพันธุ์ เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔, ๒๖๖, ๒๖๘, ๙๑ ริบเช็คเดินทางของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔, ๒๖๖, ๒๖๘, ๙๑ ให้จำคุกจำเลยกระทงละ ๒ ปี รวม ๗ กระทง เป็นจำคุก ๑๔ ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๗ ปี ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยปลอมเอกสารครั้งเดียวย่อมเป็นความผิดกรรมเดียว ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๘ ประกอบด้วยมาตรา ๒๖๖ จำคุก ๒ ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลย ๑ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า มีปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า การที่จำเลยปลอมตั๋วเงินจำนวน ๗ ฉบับ ซึ่งเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิหลายกรรมต่างกัน แต่จำเลยได้นำตั๋วเงินทั้ง ๗ ฉบับดังกล่าวไปใช้ในคราวเดียวกัน จะลงโทษจำเลยฐานใช้เอกสารสิทธิรวม ๗ กระทง หรือลงโทษจำเลยได้เพียงกระทงเดียว พิเคราะห์แล้วเห็นว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๘ วรรคสอง บัญญัติว่า ถ้าผู้กระทำความผิดฐานใช้หรืออ้างเอกสารปลอมเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้น ให้ลงโทษตามมาตรานี้แต่เพียงกระทงเดียวตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย หมายความว่า ความผิดฐานปลอมเอกสารแต่ละกระทงถ้าผู้ใช้เอกสารปลอมเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้นก็ให้ลงโทษฐานเป็นผู้ใช้เพียงกระทงเดียว เฉพาะแต่ละกระทงที่ทำปลอม เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏจากคำฟ้องและที่จำเลยให้การรับสารภาพฟังได้ว่า จำเลยได้ปลอมเอกสารตามฟ้องเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันรวมเป็น ๗ กระทง เมื่อจำเลยนำเอกสารปลอมดังกล่าวไปใช้ ก็ต้องลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้ใช้แต่ละกระทงที่ปลอมตามมาตรา ๒๖๘ วรรคสอง แม้จำเลยจะได้ใช้เอกสารปลอมดังกล่าวในคราวเดียวกัน แต่ก็มีเจตนาใช้ตั๋วเงินซึ่งเป็นเอกสารให้มีผลแยกเป็นรายฉบับต่างกัน จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้เอกสารปลอมดังกล่าวรวม ๗ กระทง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยเพียงกระทงเดียวจึงไม่ถูกต้องฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์