แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ปิดอากรแสตมป์ด้านที่เป็นแบบพิมพ์หนังสือสัญญากู้เงินถึง 550 บาท ทั้งที่ต้องปิดอากรแสตมป์เพียง 285 บาท แสดงว่าโจทก์ปิดอากรแสตมป์ตามหนังสือสัญญากู้เงินและหนังสือสัญญาค้ำประกันที่เป็นแบบพิมพ์ด้านหลังครบถ้วนแล้ว หนังสือสัญญาค้ำประกันจึงใช้เป็นพยานหลักฐานได้ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 118
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 611,875 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 550,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 550,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2544 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 20 กันยายน 2545) ต้องไม่เกินจำนวน 61,875 บาท กับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าทนายความในชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ 3,000 บาท ให้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ประมวลรัษฎากร มาตรา 118 บัญญัติว่า ตราสารใดไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์จะใช้ต้นฉบับ คู่ฉบับ คู่ฉีกหรือสำเนาตราสารนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ บทบัญญัตินี้ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องปิดอากรแสตมป์ที่ด้านใดของเอกสาร ตามหนังสือสัญญากู้เงินและหนังสือสัญญาค้ำประกัน เป็นแบบพิมพ์แผ่นเดียวกันมี 2 หน้า ด้านหน้าเป็นแบบพิมพ์หนังสือสัญญากู้เงิน ด้านหลังเป็นแบบพิมพ์หนังสือสัญญาค้ำประกัน ปรากฏว่ามีการปิดอากรแสตมป์ดวงละ 20 บาท จำนวน 27 ดวง ดวงละ 5 บาท จำนวน 2 ดวง รวมเป็นค่าอากรแสตมป์ 550 บาท ที่ด้านหน้าซึ่งเป็นแบบพิมพ์หนังสือสัญญากู้เงิน จำนวนเงินตามหนังสือสัญญากู้เงินเป็นเงิน 550,000 บาท ตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ท้าย ประมวลรัษฎากร ลักษณะตราสาร 5 กู้ยืมเงินทุกจำนวน 2,000 บาท หรือเศษของ 2,000 บาท แห่งยอดเงินกู้ยืมเป็นค่าอากรแสตมป์ 1 บาท ฉะนั้นตามหนังสือสัญญากู้เงินต้องปิดอากรแสตมป์ 275 บาท ส่วนบัญชีอัตราอากรแสตมป์ท้าย ประมวลรัษฎากร ลักษณะตราสาร 17 ค้ำประกัน สำหรับจำนวนเงินเกิน 10,000 บาทขึ้นไป ค่าอากรแสตมป์ 10 บาท ตามหนังสือสัญญาค้ำประกันต้องปิดอากรแสตมป์ 10 บาท การที่โจทก์ปิดอากรแสตมป์ด้านที่เป็นแบบพิมพ์หนังสือสัญญากู้เงินถึง 550 บาท ทั้งที่ต้องปิดอากรแสตมป์เพียง 285 บาท แสดงว่าโจทก์ปิดอากรแสตมป์ตามหนังสือสัญญากู้เงินและหนังสือสัญญาค้ำประกัน ครบถ้วนแล้ว หนังสือสัญญาค้ำประกัน จึงใช้เป็นพยานหลักฐานได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 ที่โจทก์ฎีกาทำนองว่าโจทก์มิได้ตั้งใจหรือเจตนาไม่ปิดอากรแสตมป์ในหนังสือสัญญาค้ำประกัน และขออนุญาตส่งหนังสือสัญญาค้ำประกันไปดำเนินการปิดอากรแสตมป์ให้ครบถ้วนเพื่อจะได้ใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานได้นั้น เป็นการฎีกาในข้อเท็จจริงที่เข้าใจคลาดเคลื่อนไป จึงไม่จำต้องหยิบขึ้นวินิจฉัยอีกต่อไปเพราะไม่ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 2 ที่ 3 โดยเห็นว่าหนังสือสัญญาค้ำประกัน มิได้ปิดอากรแสตมป์ไม่อาจใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานได้นั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และฎีกาให้เป็นพับ