คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 539/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเห็นนายแก้วหาเห็ดอยู่กับนางทา จำเลยมีความหึงหวงจึงใช้มีดเข้าไปฟันนายแก้วก่อน นายแก้วต่อสู้ป้องกันตัว
จำเลยฟันนายแก้ว 2-3 ที นางทาจึงเข้าช่วยป้องกันนายแก้วจำเลยแทงนางทาจนนางทาถึงแก่ความตาย แล้วไล่ทำร้ายนายแก้วถึงแก่ความตายอีกดังนี้ ไม่มีเหตุที่จำเลยจะอ้างได้ว่า จำเลยทำร้ายผู้ตายทั้งสองโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72
การที่จำเลยทำร้ายนายแก้วและนางทาถึงแก่ความตาย เป็นการกระทำคนละกรรมเพราะจำเลยกระทำต่อบุคคลทั้ง 2 โดยฟันแทงคนละที ไม่ใช่ฟันหรือแทงครั้งเดียวแต่เกิดผลทำให้คนถูกทำร้ายถึง 2 คนแต่การกระทำของจำเลยต่อนายแก้วตั้งแต่ฟันนายแก้วแล้วนางทาเข้ามาขัดขวาง และในที่สุดจำเลยวิ่งไล่ตามไปฟันนายแก้วอีกจนนายแก้วถึงแก่ความตายนั้นเป็นการกระทำต่อเนื่องเป็นกรรมเดียวกันพฤติการณ์แห่งคดีถือได้ว่าจำเลยทำร้ายนายแก้วและนางทาต่างกรรมต่างวาระกันกรณีจึงเข้ามาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่านายแก้ว นางทา ตายโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขอให้ลงโทษตามมาตรา 288, 289, 91

จำเลยให้การว่าทำร้ายผู้ตายโดยบันดาลโทสะและเกินกว่าเหตุหาได้ไตร่ตรองไว้ก่อนไม่

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น 2 รายเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามมาตรา 288, 91 วางโทษประหารชีวิตลดกึ่งตามมาตรา 78, 52 จำคุก 20 ปี ริบมีดของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยทำร้ายผู้ตายทั้ง 2 ต่อเนื่องกันจึงเป็นกรรมเดียวตามมาตรา 90 พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดมาตรา 288, 90 วางโทษจำคุกตลอดชีวิต ลด 1 ใน 3 ตามมาตรา 78, 53(1) จำคุก 16 ปี ริบของกลาง

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาเชื่อว่า จำเลยเห็นนายแก้วหาเห็ดอยู่กับนางทา จำเลยมีความหึงหวงนางทา จำเลยจึงใช้มีดเข้าไปฟันนายแก้วก่อน นายแก้วจึงต่อสู้ป้องกันตัว จำเลยฟันนายแก้ว 2-3 ที นางทาเข้าช่วยป้องกันนายแก้ว จำเลยจึงแทงนางทาทางข้างหลังจนทางทาล้ม จำเลยยังแทงอีกหลายครั้งจนนางทาถึงแก่ความตาย แล้วจำเลยยังไล่ทำร้ายนายแก้วจนนายแก้วถึงแก่ความตายอีก การที่จำเลยมีบาดแผลก็เป็นเพราะนายแก้วนางทาได้ทำการต่อสู้จำเลยเพื่อป้องกันตัว ไม่มีเหตุที่จำเลยจะอ้างได้ว่า จำเลยทำร้ายผู้ตายโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 และเห็นต่อไปว่า การที่จำเลยฟันทำร้ายนายแก้ว และแทงทำร้ายนางทาถึงแก่ความตายแต่ละคนนั้น เป็นการกระทำคนละกรรม เพราะจำเลยได้กระทำต่อบุคคลทั้งสองโดยฟันแทงคนละทีกัน ไม่ใช่ฟันหรือแทงครั้งเดียว แต่เกิดผลทำให้คนถูกทำร้ายถึง 2 คน แต่สำหรับการกระทำของจำเลยต่อนายแก้ว ตั้งแต่ฟันนายแก้วแล้วนางทาเข้ามาขัดขวางและในที่สุดจำเลยได้วิ่งไล่ตามไปฟันนายแก้วอีก จนนายแก้วถึงแก่ความตายนั้นเป็นการกระทำต่อเนื่องเป็นกรรมเดียวกัน เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีถือได้ว่า จำเลยทำร้ายนายแก้วและนางทาต่างกรรมต่างวาระกันกรณีจึงเข้ามาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ศาลชั้นต้นวางบทและลงโทษชอบแล้ว พิพากษาแก้ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น

Share