แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเปลี่ยนแปลงเคหะที่เช่า (ย้ายบรรได) จะโดยรับอนุญาตหรือไม่รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าก็ดี หาใช่เป็นมูลเหตุที่จะยกขึ้นพิจารณาและบังคับตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ไม่ เพราะ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ไม่มีบทกล่าวไว้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายเต้งยูนจำเลยเช่าห้องของโจทก์ แล้วให้นายเม้งเช่าช่วง และนายเต้งยูนจำเลยผิดสัญญาหลายข้อข้อหนึ่งจำเลยแก้ไขเปลี่ยนแปลงห้องแถวนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จึงขอให้ขับไล่นายเต้งยูนและบริวาร
นายเม้งยื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วม
ศาลชั้นต้นฟังว่า นายเม้ง เข้าอยู่ในห้องพิพาทโดยนายลิ่ม บุนสุน ผู้ให้เช่าเดิมรับรู้ ไม่เป็นการเช่าช่วง การย้านบรรได ก็ไม่เป็นเหตุให้ผู้เล่าบอกเลิกสัญญาเช่าได้ ตามพ.ร.บ.ควบคุม ค่าเช่า ฯลฯ ๒๔๘๙ มาตรา ๑๖ พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาสั่งรับในปัญหาข้อกฎหมายในข้อที่ศาลอุทธรณ์ได้เลยรับมาแล้วนั้น และเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงห้องพิพาท(ย้ายบรรได) จะโดยรับอนุญาตหรือไม่รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าก็ดี หาใช่เป็นมูลเหตุที่จะยกขึ้นพิจารณาและบังคับตามพ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าไม่ เพราะไม่มีบทกล่าวไว้ จึงไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยถึงความข้อนี้ ตามที่โจทก์อ้างอนุมาตรา ๒-๓-๕ แห่งมาตรา ๑๖ ของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ นั้นไม่ตรงต่อรูปคดีของโจทก์ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
จึงพิพากษายืน