แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยบังอาจลอบเอาแหวนซุกใส่ในกระเป๋าเจ้าพนักงานซึ่งเข้าไปทำการตรวจค้นที่บ้านจำเลยโดยสงสัยว่าจะมีของต้องห้าม ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการใส่เท็จทำพะยานเพื่อให้เห็นว่าเจ้าพนักงานลักทรัพย์ดังนี้ จำเลยต้องมีผิดตามม.159 แต่ไม่มีผิดตาม ม.157 ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.192 วิธีพิจารณาอาญาตัดสินไม่เกินคำขอ เมื่อโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยเพียงฐานพยายาม แม้จะปรากฎว่าเป็นความผิดสำเร็จ ศาลก็ลงโทษได้เพียงเท่าที่โจทก์ขอ
ย่อยาว
โจทก์เป็นนายตรวจสุราได้ไปตรวจฝิ่นแลสุราที่บ้านจำเลย ขณะพิศูจน์ฝิ่นอยู่จำเลยได้ลอยเอาแหวนใส่กระเป๋าเสื้อโจทก์แล้วหาว่าแหวนจำเลยหายไป แลว่าโจทก์เก็บแหวนซึ่งบุตร์จำเลยทำหายได้ได้ความดังนี้
ศาลล่างเห็นว่าข้อเท็จจริงมีทางสันนิษฐานได้หลายทาง คืออาจเป็นว่าทำหลักฐานพะยานเท็จ ร้องเรียนเท็จแจ้งความเท็จหรือเป็นเพียงคั่นพยายามเห็นว่าเป็นแต่เพียงคั่นเตรียมการ ยังห่างไกลต่อความผิด จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยเอาแหวนลอบใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อโจทก์ นับว่าเป็นการใส่เท็จทำพะยานเพื่อจะให้เห็นว่าความผิดฐานลักทรัพย์ได้เกิดขึ้น จำเลยต้องมีผิดตาม ม.๑๕๙ แต่เห็นว่าจำเลยไม่ได้นำมาอ้างในการพิจารณาคดี จึงไม่มีผิดตาม ม.๑๕๖-๑๕๗ จึงให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๖๐-๑๕๙ มีกำหนด ๘ เดือนเพียงเท่าที่โจทก์ขอ