แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช็คมิใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืม จำเลยเขียนหนังสือรับสภาพหนี้ลงชื่อด้วยตนเอง แต่วงเล็บท้ายลายมือชื่อว่าแทน พ.จึงเป็นการกระทำแทนพ. มิใช่กระทำในนามของจำเลยเอง ตามพฤติการณ์โจทก์ทราบดีว่าจำเลยกระทำการแทน พ.จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นส่วนตัว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2527 จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ไปเป็นเงิน 25,000 บาท ตามเช็คธนาคารเอเซียทรัสท์ จำกัด สาขาบ้านโป่ง ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2527 จำเลยได้รับเงินตามเช็คแล้วต่อมาวันที่ 10 สิงหาคม 2528 จำเลยทำหนังสือว่าจำเลยได้ยืมเงินจากโจทก์ไป ขอให้บริษัทแสงอุทัย จำกัด จ่ายเงินส่วนที่นายไพศาลภิญโญ จะได้รับจากบริษัทให้แก่โจทก์ แต่โจทก์รับเงินจากบริษัทแสงอุทัย จำกัด ไม่ได้ จึงทวงถามจากจำเลยและนายไพศาล ภิญโญจำเลยเพิกเฉย กับจำเลยได้ซื้อสินค้าเชื่อจากโจทก์เป็นเงิน 1,223 บาทด้วย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 30,207.25 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 26,223 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยเป็นเพียงผู้แทนของนายไพศาล ภิญโญ นำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารเท่านั้น จำเลยลงชื่อในเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 แทนนายไพศาล ที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้ยืมเงินนั้นไม่มีหนังสือสัญญาเป็นหลักฐาน และจำเลยไม่เคยซื้อสินค้าจากโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 25,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 25,000 บาท นับแต่วันที่ 5 สิงหาคม2527 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เช็คดังกล่าวมิใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ดังนั้น แม้จำเลยจะรับเงินตามเช็คไปครบถ้วนแล้ว โจทก์จะฟ้องร้องให้บังคับคดีในเรื่องกู้ยืมหาได้ไม่ ได้ความจากการนำสืบของโจทก์ต่อไปว่า หลังจากโจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยได้เขียนหนังสือรับสภาพหนี้ลงชื่อด้วยตนเอง แต่วงเล็บท้ายลายมือชื่อว่าแทนนายไพศาล ภิญโญ ตามเอกสารหมาย จ.2เห็นว่า จำเลยทำเอกสารหมาย จ. 2 แทนนายไพศาล ภิญโญ หาได้กระทำในนามของจำเลยเองไม่ ซึ่งตามข้อความในเอกสารและตามพฤติการณ์โจทก์ก็ทราบดีว่าจำเลยกระทำการแทนนายไพศาล จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นส่วนตัว
พิพากษายืน.