แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยรับเงินที่เก็บได้ไว้มากแต่ลงบัญชีว่าได้รับไว้น้อยกว่านั้นแล้วเบียดบังเอาเงินจำนวที่แตกต่างกันนั้นไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ต้องมีความผิดฐานยักยอก กระทำผิดคราวเดียวแต่เป็นการละเมิดกฎหมายหลายบทต้องลงอาญาตามบทที่หนักแต่บทเดียว
ย่อยาว
คดีได้ความว่าจำเลยเป็นครูโรงเรียนมีหน้าที่ออกใบเสร็จเก็บเงินจากนักเรียนและร้านขายอาหาร จำเลยได้ออกใบเสร็จเก็บเิงนทางปลายขั้วมากและจดลงทางปลายขั้วน้อยกว่าเก็บได้จริง และได้ยักยอกเงินไว้ ๑๕๗ บาท ๕๐ สตางค์
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานจดแจ้งรายการเท็จตามมาตรา ๒๓๐
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยควรมีผิดฐานยักยอกอีกกะทงหนึ่งตามมาตรา ๓๑๙(๑) พิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๑๙(๑)อีกกะทงหนึ่ง
ศาลฎีกาตัดสินว่าการที่จำเลยมีหน้าที่ส่งเงินแก่ครู่ใหญ่ทุกวัน และเจตนาเอาเงินไว้ใช้เอง ย่อมเกิดเป็นความผิดฐานยักยอกโดยบริบูรณ์ จำเลยย่อมได้ชื่อว่ากระทำความผิดในคราวเดียวกันและเลมิดกฎหมายหลายบทเพราะไม่ปรากฎว่าจำเลยได้ยักยอกก่อนจดต้นขั้วเท็จนั้น ตามมาตรา ๗๐ จำเลยต้องได้รับโทษหนักตามมาตรา ๒๓๐ แต่บทเดียว จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น