คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5345/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จะถือว่าบ้านและที่ดินเป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับจำเลยตามที่ผู้ร้องอ้างก็ตาม แต่เมื่อศาลยังไม่ได้เพิกถอนนิติกรรมการขายบ้านและที่ดินระหว่างโจทก์กับจำเลย บ้านและที่ดินจึงยังเป็นของโจทก์อยู่ กรณีถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้มีอำนาจพิเศษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 จัตวา (3)

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากบ้านและที่ดินของโจทก์ โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โดยเมื่อครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ยอมออกไปจากบ้านและที่ดิน โจทก์จึงขอตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้จัดการให้ โจทก์เข้าครอบครองบ้านและที่ดิน
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ดินโฉนดเลขที่ 56152 พร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นสินสมรสของผู้ร้องกับจำเลย จำเลยขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แก่โจทก์โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ร้อง ทั้งผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจและมิได้ให้สัตยาบัน สัญญาซื้อขายจึงตกเป็นโมฆียะ ผู้ร้องได้มอบอำนาจให้ทนายความบอกล้างสัญญาซื้อขายดังกล่าวแล้วขอให้ยกคำขอบังคับคดีของโจทก์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยหรือไม่ ผู้ร้องอ้างว่าบ้านและที่ดินที่จำเลยไปทำนิติกรรมขายให้โจทก์เป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับจำเลยจำเลยทำไปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลย และผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจหรือให้สัตยาบันแก่นิติกรรมการขายดังกล่าว บ้านและที่ดินยังเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมของจำเลยและผู้ร้องอยู่ เห็นว่า นิติกรรมการขายบ้านและที่ดินรายนี้ได้กระทำไปก่อนวันที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2533 ใช้บังคับและตามมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดว่าการขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมนั้นให้เป็นไปตามมาตรา 1480 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก่อนการแก้ไขเพิ่มเติมซึ่งตามมาตรา 1480 วรรคสอง เดิม มีความว่าในกรณีที่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งได้ทำนิติกรรมไปโดยปราศจากความยินยอมคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งอาจขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมนั้นได้ ดังนี้แม้จะถือว่าบ้านและที่ดินเป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับจำเลยก็ตามแต่เมื่อศาลยังไม่ได้เพิกถอนนิติกรรมการขายบ้านและที่ดินระหว่างโจทก์กับจำเลย บ้านและที่ดินจึงยังเป็นของโจทก์อยู่ กรณีถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้มีอำนาจพิเศษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 จัตวา (3) ผู้ร้องจึงเป็นบริวารของจำเลย จึงไม่อาจยกคำขอบังคับคดีของโจทก์ได้
พิพากษายืน

Share