คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5344/2559

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดตามฟ้อง ข้อเท็จจริงที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ในทำนองเดียวกันว่าจำเลยทั้งสองเป็นเพียงลูกจ้างขายสินค้าให้แก่นายจ้างตามตลาดนัดทั่วไป ไม่มีเจตนาประกอบธุรกิจของจำเลยทั้งสองเอง จำเลยทั้งสองไม่รู้ว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น ถือเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองดังกล่าวจึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 38 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 และ ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 6, 8, 15, 28, 31, 70, 75 และ 76 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้ซีดีรอมเพลงประเภทเอ็มพี 3 ของกลางที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์จำนวน 106 แผ่น ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ และสั่งจ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 70 วรรคสอง ประกอบมาตรา 31 (1) และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้ลงโทษปรับคนละ 55,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับคนละ 27,500 บาท หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระค่าปรับ ให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ 30 ให้แผ่นซีดีรอมเพลงประเภทเอ็มพี 3 จำนวน 106 แผ่น ของกลางที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ตามฟ้องตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ และให้จ่ายค่าปรับที่ได้ชำระตามคำพิพากษาฐานละเมิดลิขสิทธิ์เป็นจำนวนกึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ในทำนองเดียวกันว่า จำเลยทั้งสองเป็นเพียงลูกจ้าง ขายสินค้าให้แก่นายจ้างตามตลาดนัดทั่วไป ไม่มีเจตนาประกอบธุรกิจของจำเลยทั้งสองเอง จำเลยทั้งสองไม่รู้ว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น เมื่อจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดตามฟ้อง ข้อเท็จจริงที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ดังกล่าวถือเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองดังกล่าวเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 38 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share