คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5342/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ทำการค้าวัสดุก่อสร้างและเครื่องสุขภัณฑ์ฟ้องเรียกหนี้ค่าสินค้าที่จำเลยทั้งสองซื้อไปจากโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ในเรื่องอายุความว่า โจทก์ส่งมอบสินค้าตามฟ้องให้แก่จำเลยที่ 1 เกิน 2 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความฟ้องร้อง ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (1) พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ที่โจทก์ฎีกาว่า คดีของโจทก์มีอายุความ 5 ปี เพราะจำเลยทั้งสองซื้อสินค้าจากโจทก์เพื่อนำไปขายให้บุคคลทั่วไป มิใช่ซื้อมาเพื่อใช้บริโภคเองเป็นเรื่องที่โจทก์เพิ่งยกขึ้นมาในชั้นฎีกา ไม่ใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ปัญหานี้ไม่มีผลกระทบถึงสังคมหรือประชาชนทั่วไป จึงไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน ๒,๒๒๒,๒๙๔.๐๔ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๑,๙๓๕,๘๙๐.๒๔ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า คดีนี้มูลหนี้ซื้อขายเกิดขึ้นเกินกว่า ๒ ปีแล้ว แต่โจทก์เพิ่งนำคดีมาฟ้อง ทั้งจำเลยทั้งสองได้ชำระเงินให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า คดีนี้โจทก์เป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ทำการค้าวัสดุก่อสร้างและเครื่องสุขภัณฑ์ฟ้องเรียกหนี้ค่าสินค้าที่จำเลยทั้งสองซื้อไปจากโจทก์ จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ในเรื่องอายุความว่า โจทก์ส่งมอบสินค้าตามฟ้องให้แก่จำเลยที่ ๑ เกิน ๒ ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความฟ้องร้อง ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า หนี้ค่าสินค้ารายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๓๗ ถึงต้นปี ๒๕๓๘ แต่โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๔๐ พ้นกำหนด ๒ ปี และที่จำเลยที่ ๑ โอนเงินชำระหนี้บางส่วนให้แก่โจทก์เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๓๘ เป็นการชำระหนี้ค่าสินค้ารายการอื่น ไม่ใช่ชำระหนี้ตามฟ้อง ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้ อายุความไม่สะดุดหยุดลง ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๙๓/๓๔ (๑) พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์โต้แย้งว่า การโอนเงินชำระหนี้บางส่วนเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๓๘ เป็นการรับสภาพหนี้ตามฟ้อง คดีไม่ขาดอายุความ ๒ ปี ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ วินิจฉัยเช่นเดียวกับศาลชั้นต้นว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ ๒ ปีแล้ว ดังนั้น ที่โจทก์ฎีกาว่า คดีของโจทก์มีอายุความ ๕ ปี เพราะจำเลยทั้งสองซื้อสินค้าจากโจทก์เพื่อนำไปขายให้บุคคลทั่วไป มิใช่ซื้อมาเพื่อใช้บริโภคเอง จึงเป็นเรื่องที่โจทก์เพิ่งยกขึ้นมาในชั้นฎีกา ไม่ใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค ๓ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ วรรคหนึ่ง ปัญหานี้ไม่มีผลกระทบถึงสังคมหรือประชาชนทั่วไป จึงไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกาของโจทก์ คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดในชั้นฎีกาแก่โจทก์ ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share