แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มอบให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยที่ 2 ผู้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายแทนโดยที่ดินดังกล่าวได้ถูกยึดในคดีแพ่งเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอมก่อนแล้วนั้น ถือได้ว่าเป็นการกระทำอย่างหนึ่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 146 การที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดอ้างว่าการขายทอดตลาดกระทำไปโดยไม่สุจริต ซึ่งหากเป็นความจริงย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นบุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จึงมีสิทธิยื่นคำร้องในคดีล้มละลายขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้ให้โจทก์หากผิดนัดให้โจทก์บังคับคดีนำที่ดินโฉนดเลขที่ 25328, 52948, 52949 และ 52950 พร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นของจำเลยที่ 2 ออกขายทอดตลาดและยึดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสามชำระหนี้ จำเลยทั้งสามผิดนัด โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดิน 4 โฉนดดังกล่าวพร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้ เมื่อวันที่ 24มกราคม 2527 จำเลยที่ 2 ถูกศาลแพ่งมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดต่อมาวันที่ 7 มีนาคม 2534 เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดิน4 โฉนดของจำเลยที่ 2 พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ยึดไว้โดยบริษัทเซาท์แปซิฟิค จำกัด เป็นผู้ประมูลได้ในราคา 6,800,000 บาท
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดอ้างว่าจำเลยที่ 2 ไม่ทราบนัดขายทอดตลาด และการขายทอดตลาดกระทำไปโดยไม่สุจริต ขายต่ำกว่าราคาจริง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยที่ 2 ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว การดำเนินคดีใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ตกอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวการที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องเข้ามาโดยลำพังไม่ชอบด้วยกฎหมายและเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดถูกต้องตามกฎหมายในราคาที่เหมาะสมขอให้ยกคำร้อง
เจ้าพนักงานบังคับคดียื่นคำคัดค้านว่า จำเลยที่ 2 ถูกศาลแพ่งมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2527ในคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ ล.8/2527 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 ต่อไปในคดีแพ่ง แล้วจัดส่งเงินไปให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงได้ขายทอดตลาดโดยส่งประกาศให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 2ทราบ และประกาศการขายทอดตลาดให้จำเลยที่ 2 ทราบทางหนังสือพิมพ์จำเลยที่ 2 ไม่มาดูแลการขาย เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทรัพย์แก่ผู้เสนอราคาสูงสุด เป็นราคาที่สมควรถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง ถึงวันนัดศาลชั้นต้นสอบถามเจ้าพนักงานบังคับคดีและจำเลยที่ 2 เจ้าพนักงานบังคับคดีแถลงว่าขายทอดตลาดทรัพย์คดีนี้แทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดเข้ากองทรัพย์สินของจำเลยในคดีล้มละลายส่วนจำเลยที่ 2 แถลงว่า การขายทอดตลาดมิชอบ เพราะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มาร่วมในการขาย และขายต่ำกว่าราคาจริงมากศาลชั้นต้นเห็นว่า การขายทอดตลาดคดีนี้เป็นการขายทอดตลาดแทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ ล.8/2527หากการซื้อขายไม่ชอบอย่างไร จำเลยที่ 2 ชอบที่จะไปยื่นคำร้องในคดีล้มละลายดังกล่าว มิใช่มายื่นคำร้องในคดีนี้ จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 146 บัญญัติว่า “ถ้าบุคคลล้มละลาย เจ้าหนี้หรือบุคคลใดได้รับความเสียหายโดยการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ บุคคลนั้นอาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลภายในกำหนดสิบสี่วัน นับแต่วันที่ได้ทราบการกระทำหรือคำวินิจฉัยนั้นศาลมีอำนาจสั่งยืนตาม กลับหรือแก้ไข หรือสั่งประการใดที่เห็นสมควร”การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มอบให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินแทน ถือได้ว่าเป็นการกระทำอย่างหนึ่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามบทกฎหมายดังกล่าว ที่จำเลยที่ 2ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดอ้างว่าการขายทอดตลาดกระทำไปโดยไม่สุจริต หากเป็นความจริงดังที่จำเลยที่ 2 อ้างในคำร้องย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นบุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว จำเลยที่ 2 จึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าวได้ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 ไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์ซึ่งกระทำหลังจากจำเลยที่ 2 ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา เมื่อได้วินิจฉัยเช่นนี้แล้วศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยในปัญหาที่ว่า จำเลยที่ 2 ชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดในคดีนี้หรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า คดีนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดที่ดินจำนองรวม 4 โฉนดของจำเลยที่ 2 เพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอม เมื่อวันที่10 สิงหาคม 2526 วันที่ 24 มกราคม 2527 จำเลยที่ 1 ถูกศาลแพ่งมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ในคดีหมายเลขแดงที่ ล.8/2527ระหว่างธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด โจทก์ นายอุดม ศรีประสมจำเลย โจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายดังกล่าว ขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินจำนองรวม 4 โฉนด ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ในคดีนี้เพื่อนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้มีประกัน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้มีประกันจากเงินค่าขายทอดตลาดที่ดินจำนองรวม 4 โฉนด และต่อมาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีหนังสือถึงเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีนี้ให้ดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินจำนองรวม 4 โฉนด แล้วส่งเงินไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินจำนองรวม 4 โฉนด ที่ยึดไว้ไป ดังนั้นการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวจึงเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการแทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ ล.8/2527ซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระทำอย่างหนึ่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หากจำเลยที่ 2 ได้รับความเสียหายโดยการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ด้วยเหตุใด ๆ ก็ชอบที่จะยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องในคดีล้มละลายดังกล่าว ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำร้องของจำเลยที่ 2ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน