คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องมรดก เมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นัดพร้อมครั้นถึงกำหนด คู่ความ ขอเลื่อนไปเนื่องจากมีทางตกลงกันได้ จนถึงกำหนดนัดพร้อมกันครั้งที่ 2 คู่ความก็ยังขอเวลาไปเจรจา เพื่อแบ่ง มรดกกันเองก่อน ขอให้ศาลงดคดีไว้ 1 เดือน ศาลก็อนุญาตดังนี้ การนัดทั้ง 2 ครั้งดังกล่าวย่อมถือว่าเป็นการนัด พร้อม ไม่ใช่นัดชี้สองสถาน และการนัดพร้อมทั้ง 2 ครั้งนั้นคู่ความหรือศาลก็หาได้กระทำอย่างหนึ่งอย่างใด อันจะเป็นการเรียกได้ว่า ได้มีการชี้สองสถาน ดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 183 ไม่ จึงเรียกไม่ได้ว่ามีการชี้ สองสถานแล้ว./

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์เท่านั้นเป็นทายาทโดยธรรมตามกฏหมาย ของนายเฮง ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้อง ฯลฯ
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์มิใช่ทายาทของนายเฮงและว่านายเฮงทำพินัยกรรม์ยกทรัพย์ให้จำเลย
ศาลนัดพร้อมกันหลายครั้ง เนื่องจากโจทก์าจำเลยกำลังจะตกลงกันได้ ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง
ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตอ้างว่า ยื่นภายหลังที่ศาลนัดพร้อมชี้สองสถานมาถึง ๒ นัดมาแล้ว.
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่อนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้รับคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้คำร้องเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์จะได้ยื่นภายหลังที่ได้มีการนัดพร้อมกันถึง ๒ ครั้งแล้วก็ดี แต่ก็เป็นการ นัดพร้อม ไม่ใช่นัดชี้สองสถาน และทั้งการนัดพร้อมทั้ง ๒ ครั้งนั้น คู่ความหรือศาลหาได้กระทำอย่างหนึ่งอย่างใด อันจะ เป็นการเรียกได้ว่า ได้มีการชี้สองสถานดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๑๘๓ ไม่ จึงเรียกไม่ได้ว่าได้มีการชี้สอง สถานแล้ว ดังนั้น คำร้องเพิ่มเติมของโจทก์จึงต้องถือว่าได้ยื่นก่อนวันชี้สองสถาน.
ฯลฯ
คงพิพากษายืน.

Share