แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 หากจำเลยที่ 1 ประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่ง จำเลยที่ 1 ต้องยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น และนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 เมื่อจำเลยที่ 1 เพียงแต่นำค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลโดยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวโดยครบถ้วน คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 1 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ 10,089,140.36 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยไม่ทบต้นอัตราร้อยละ 15 ต่อปี แต่ไม่เกินอัตราที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและประกาศธนาคารโจทก์ให้เรียกเก็บได้นับแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2535 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยหักหนี้ที่จำเลยที่ 1 ชำระออกจากจำนวนหนี้ที่มีอยู่ในวันชำระหนี้ โดยชำระดอกเบี้ยก่อนที่เหลือจึงชำระต้นเงิน หากจำเลยทั้งสี่ไม่ชำระหรือชำระไม่ครบ ให้ยึดทรัพย์จำนองขายทอดตลาดชำระหนี้ หากได้เงินไม่พอ ให้ยึดทรัพย์อื่นของจำเลยทั้งสี่ออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์ คำขอนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ชอบหรือไม่ เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 หากจำเลยที่ 1 ประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่ง จำเลยที่ 1 ต้องยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น และนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 เมื่อจำเลยที่ 1 เพียงแต่นำค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลโดยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวโดยครบถ้วน คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 1 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ที่ให้ยกคำร้องจึงชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน