คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยินยอมให้โจทก์เดินและใช้เกวียนลากเข็นข้าวผ่านนาของจำเลยมาเป็นเวลาหลายสิบปี เฉพาะเวลาหมดฤดูทำนา ทางพิพาทนั้นก็ตกอยู่ในภาระจำยอมที่จะต้องให้โจทก์เดินผ่านได้เมื่อสิ้นฤดูทำนาแล้วตลอดไป.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีที่ปลูกบ้านและมีนาซึ่งอยู่ห่างกัน ๖ กิโลเมตร โจทก์ไปทำนา ลากข้าวและไปธุระต้องอาศัยผ่านที่จำเลยตามแผนที่ท้ายฟ้องมา ๔๐ ปี นอกจากเส้นทางนี้ไม่มีทางเดินไปนาโจทก์ ครั้นเมื่อเดือนธันวาคม ๒๔๙๖ จำเลยเอาต้นผลไม้มาปลูกปิดทาง ทำให้โจทก์เสียหาย จึงมาฟ้องให้ศาลบังคับให้จำเลยเปิดเส้นทางนั้นให้ พร้อมด้วยเรียกค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่าที่ที่ปลูกผลไม้เป็นที่จำเลย แม้โจทก์จะเคยลากข้าวผ่านเป็นครั้งคราวก็ต้องขออนุญาตจำเลย และไม่ใช่ทางเดินประจำ โจทก์มีทางเดินได้ทั่วไปไม่มีความจำเป็นจะต้องมาเดินในที่จำเลย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าทางพิพาทไม่ใช่ที่สาธารณะ ไม่ใช่ทางจำเป็น ให้ยกฟ้องโจทก์เสีย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่า พยานโจทย์ฟังได้ว่าโจทก์ใช้เกวียนและกระบือผ่านทางพิพาทซึ่งเป็นนาจำเลยเมื่อสิ้นฤดูทำนามาหลายสิบปี ทางรายพิพาทจึงตกเป็นภาระจำยอมเฉพาะสิ้นฤดูทำนา จำเลยไม่มีสิทธิ์จะปิด ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย.

Share