คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5314/2539

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ที่ดินของจำเลยที่มีที่ดินของโจทก์เป็นทางภารจำยอมอยู่แล้ว แม้ต่อมาจะมีทางออกทางอื่นโดยมีถนนสาธารณะตัดผ่าน ที่ดินของจำเลยก็หาทำให้ทางภารจำยอมในที่ดินของโจทก์ ที่มีอยู่แล้วสิ้นไปไม่ กรณียังมิใช่เป็นเรื่องภารจำยอมหมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1400 ภารจำยอมในที่ดินของโจทก์จึงมิได้หมดประโยชน์แก่ที่ดินสามยทรัพย์ของจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรและเป็นผู้จัดการมรดกของนายมล ยอดสุวรรณ และเป็นผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 133383 ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายมล จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870, 139837, 139838,139839, 139840 และ 139841 ต่อมาจำเลยได้จดทะเบียนโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 ให้แก่บริษัทมิลเลียนแนร์ บิลดิ้ง จำกัดเดิมเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2514 นายมลได้จดทะเบียนภารจำยอมให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 1871 บางส่วนตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 หลังจากจดทะเบียนดังกล่าวได้ประมาณ 3 ถึง 4 ปีทางราชการได้ตัดถนนประชาอุทิศซึ่งเป็นถนนสาธารณะผ่านหน้าที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 จำเลยจึงใช้ถนนประชาอุทิศแทนทางภารจำยอมและมิได้ใช้ทางภารจำยอมมานานกว่า 10 ปีแล้วเนื่องจากถนนประชาอุทิศเป็นเส้นทางที่สะดวกกว่าทางภารจำยอมจึงได้เปลี่ยนแปลงสภาพหมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์เพราะมีราษฎรปลูกสร้างบ้านเรือนปิดกั้นจนไม่สามารถออกสู่ทางสาธารณะได้ และมีสภาพเป็นแอ่งน้ำ ทางภารจำยอมจึงสิ้นไปโดยผลของกฎหมาย ต่อมาวันที่ 21 กันยายน 2530 โจทก์ได้ขอแบ่งแยกที่ดินโฉนดเลขที่ 1871 ออกเป็นแปลงย่อยรวม 5 แปลง ซึ่งจำเลยให้ความยินยอมให้ที่ดินที่แบ่งแยกพ้นจากภารจำยอม 4 แปลงยกเว้นแปลงโฉนดเลขที่ 133383 แต่ภารจำยอมก็หาได้มีประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 อีกไม่ ขอให้พิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 133383 ตำบลห้วยขวาง (สามเสนนอกฝั่งเหนือ)อำเภอห้วยขวาง (บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร พ้นจากภารจำยอมทั้งหมด ให้จำเลยไปให้ความยินยอมเพื่อโจทก์จะได้ดำเนินการจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดิน มิฉะนั้นให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ทอดทิ้งหรือมิได้ใช้ทางภารจำยอมเกินกว่า 10 ปี และแม้ที่ดินของจำเลยจะมีถนนประชาอุทิศตัดผ่านแต่ถนนดังกล่าวเปิดให้ใช้ได้ไม่ถึง 10 ปี ส่วนทางภารจำยอมซึ่งมีราษฎรปลูกสร้างบ้านเรือนนั้น ยังสามารถใช้เป็นทางเข้าออกได้และจำเลยยังคงใช้ทางภารจำยอมเข้าออกเสมอ ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เรียกบริษัทมิลเลียนแนร์ บิลดิ้ง จำกัด เข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
จำเลยร่วมให้การว่า จำเลยร่วมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 โดยซื้อมาจากจำเลยโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานโดยสุจริตแล้วจำเลยร่วมยังคงใช้ทางภารจำยอมเข้าออกเรื่อยมา เนื่องจากถนนประชาอุทิศเปิดใช้ยังไม่ถึง 10 ปี และมิได้ตัดผ่านที่ดินส่วนของจำเลยร่วมขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิได้โต้เถียงกันในชั้นนี้ฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2514 นายมล ยอดสุวรรณได้จดทะเบียนให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 1871 เลขที่ดิน 2534ตำบลห้วยขวาง (สามเสนนอกฝั่งเหนือ) อำเภอห้วยขวาง (บางซื่อ)กรุงเทพมหานคร ทั้งแปลงของโจทก์ตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 ตำบลห้วยขวาง (สามเสนนอกฝั่งเหนือ)อำเภอห้วยขวาง (บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร ทั้งแปลงของจำเลยต่อมาในปี 2530 โจทก์ได้แบ่งแยกที่ดินของโจทก์โฉนดเลขที่ 1871ดังกล่าวออกเป็น 5 แปลง คือที่ดินโฉนดเลขที่ 1871, 133383,133382, 133381 และ 133380 และในปี 2534 จำเลยได้แบ่งแยกที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 ของจำเลยออกเป็น 6 แปลง คือที่ดินโฉนดเลขที่ 1870, 139837, 139838, 139839, 139840 และ 139841แล้วนายมลได้จดทะเบียนภารจำยอมใหม่ให้เฉพาะที่ดินที่แบ่งแยกแล้วคือที่ดินโฉนดเลขที่ 133383 ของโจทก์ตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 ของจำเลย โดยยกเลิกภารจำยอมในที่ดินส่วนอื่นที่แบ่งแยกออกไปแล้วทั้งหมด ต่อมาเมื่อปี 2534 จำเลยขายที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 ให้แก่บริษัทมิลเลียนแนร์ บิลดิ้ง จำกัดจำเลยร่วม คดีมีปัญหาว่า ทางภารจำยอมในที่ดินโฉนดเลขที่ 133383ได้สิ้นไปโดยจำเลยมิได้ใช้มามากกว่า 10 ปีแล้วหรือไม่ ในข้อนี้โจทก์มีตัวโจทก์เป็นพยานเบิกความว่า หลังจากที่มีการตัดถนนประชาอุทิศผ่านที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 เดิมของจำเลยแล้วจำเลยได้มาใช้ทางสาธารณะถนนประชาอุทิศเดินเข้าออกในที่ดินของจำเลยโดยมิได้ใช้ทางภารจำยอมตั้งแต่เปิดใช้ถนนประชาอุทิศตลอดมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เมื่อได้พิจารณาตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2524และ 2525 เกี่ยวกับการตัดถนนประชาอุทิศตามเอกสารหมาย ล.25และ ล.26 ที่จำเลยส่งอ้างต่อศาล ปรากฏว่าถนนประชาอุทิศทำการก่อสร้างเมื่อปี 2524 และ 2525 รวม 2 ปี ก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้เมื่อปี 2526 ตรงตามคำเบิกความของจำเลยที่ว่าถนนประชาอุทิศเปิดใช้เมื่อวันที่ 2526 เมื่อนับระยะเวลาตั้งแต่เปิดใช้ถนนประชาอุทิศจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ยังไม่ครบ 10 ปี ฉะนั้น ทางภารจำยอมในที่ดินโฉนดเลขที่ 133383จึงยังไม่สิ้นไปเนื่องจากการเลิกใช้
คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปตามฎีกาของโจทก์ว่าทางภารจำยอมในที่ดินโฉนดเลขที่ 133383 ของโจทก์หมดประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 ของจำเลยซึ่งเป็นสามยทรัพย์หรือไม่เห็นว่า ที่ดินของจำเลยที่มีที่ดินของโจทก์เป็นทางภารจำยอมอยู่แล้ว แม้จะมีทางออกทางอื่นโดยมีถนนประชาอุทิศตัดผ่านที่ดินของจำเลยก็หาทำให้ทางภารจำยอมในที่ดินของโจทก์ที่มีอยู่แล้วสิ้นไปไม่ เพราะกรณียังมิใช่เป็นเรื่องภารจำยอมหมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1400จึงฟังไม่ได้ว่าภารจำยอมในที่ดินโฉนดเลขที่ 133383 ซึ่งเป็นที่ดินภารยทรัพย์ของโจทก์หมดประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870ซึ่งเป็นที่ดินสามยทรัพย์ของจำเลย”
พิพากษายืน

Share