คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำพินัยกรรมว่าขอถวายทรัพย์แก่พระอธิการแดงเพื่อบำรุงวัดนั้นหรือวัดอื่น เมื่อพระอธิการองค์นั้นมรณภาพแล้ว วัดนั้นหรือพระอธิการวัดนั้นจะฟ้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์ตามพินัยกรรมไม่ได้ เพราะไม่ถือว่าเป็นพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่วัดนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายจันศิริได้ทำพินัยกรรมมอบหมายให้พระอธิการแดงเป็นผู้จัดการทรัพย์สินในกองมฤดกของนายจันศิริเพื่อเก็บผลประโยชน์บำรุงพระพุทธศาสนาและสร้างวัดน้อยแสงจันทร์ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้น ครั้นเมื่อนายจันศิริวายชนม์แล้ว พระอธิการแดงก็เข้าจัดการทรัพย์มฤดกตามพินัยกรรม และได้ทำสัญญาขายที่ดินให้แก่จำเลย แต่ยังหาได้ชำระเงินแก่กันไม่ เงินรายนี้จะต้องนำมาใช้บำรุงวัดน้อยแสงจันทร์ตามคำสั่งในพินัยกรรม ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระที่ดินให้โจทก์ ถ้าไม่สามารถชำระได้ ก็ให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายรายนี้
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ได้ซื้อขายโดยสุจริต และชำระราคากันแล้ว ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม และคดีขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า นิติกรรมการซื้อขายรายนี้ได้ทำโดยสุจริต และชำระราคากันแล้ว พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ และฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาฟังว่า ข้อความในพินัยกรรมข้อ ๑ มีความว่า “บรรดาทรัพย์สมบัติที่กล่าวมาทั้งนี้ ข้าพเจ้ามีความยินดีและเต็มใจที่จะมอบถวายพระอธิการแดงวัดนางตะเคียน เพื่อจัดการบำรุงพระพุทธศาสนา และสร้างวัดน้อยแสงจันทร์ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้น หรือจะทำวัดน้อยแสงจันทร์ขึ้นให้เป็นวัดไม่ได้ ก็ให้เอาทรัพย์สมบัติของข้าพเจ้าทั้งนี้บำรุงวัดหนึ่งวัดใดตามแต่พระอธิการแดงจะเห็นสมควร” ศาลฎีกาเห็นว่า พินัยกรรมฉบับนี้มิได้เจาะจงยกทรัพย์ให้โจทก์ หรือบังคับให้ทำบุญฉะเพาะวัดโจทก์วัดเดียว แต่เป็นเรื่องมอบให้พระอธิการแตงจัดการบำรุงพระพุทธศาสนาโดยทั่วไป และสร้างวัดโจทก์ เมื่อโจทก์เป็นวัดขึ้นแล้วก็อยู่ในดุลยพินิจของพระอธิการแดงที่จะบำรุงวัดใดต่อไป โจทก์ยังไม่ได้ชื่อว่า เป็นผู้รับพินัยกรรมอันจะมีสิทธิฟ้องคดีนี้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share