แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การพนันสลากกินรวบเป็นสิ่งที่มอมเมาประชาชน และเป็นอบายมุขที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจของชาติบ้านเมืองสมควรแก่การกำราบปราบปรามมิให้มีการเล่นอีกต่อไป เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมด้วยโพยสลากกินรวบ 31 รายย่อยที่เล่นการพนันสลากกินรวบในกลุ่มของพวกจำเลยทั้งสองเอง จึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้งสอง.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยคนละ 3 เดือน ปรับคนละ2,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 4 เดือน จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 2 เดือน ไม่รอการลงโทษจำเลยทั้งสองฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การพนันสลากกินรวบเป็นสิ่งที่มอมเมาประชาชน และเป็นอบายมุขที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจของชาติบ้านเมือง สมควรแก่การกำราบปราบปรามมิให้มีการเล่นอีกต่อไปและปรากฏว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมด้วยโพยสลากกินรวบ31 แผ่น กับเงินสดอีก 1,300 บาท เป็นของกลางถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นเจ้ามือรายย่อยที่เล่นการพนันสลากกินรวบในกลุ่มของพวกจำเลยทั้งสองเองดังข้อฎีกาของจำเลยทั้งสอง จึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้งสอง”
พิพากษายืน