คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์แพ้ความจำเลยโจทก์ทำสัญญากับจำเลยว่าจำเลยไม่ยึดที่ดินของโจทก์+โจทก์ยอมให้เงินแก่จำเลยจำนวนหนึ่ง แต่+หลังจำเลยก็คงยึดที่ดินขายทอดตลาดไปดังนี้+ย่อมมีสิทธิเรียกเงิน+ให้จำเลยได้ฐาน+มิควรได้

ย่อยาว

เดิมจำเลยกับโจทก์พิพาทกันด้วยที่ดินศาลพิพากษาว่าที่ดินเปนของโจทก์ แต่ให้โจทก์ใช้เงินแก่จำเลย ๔๒๑๓ บาท เมื่อคดีถึงที่สุดจำเลยกับโจทก์ได้ทำสัญญากันว่า จำเลยจะไม่ยึดที่รายพิพาทขายใช้เงินตามคำพิพากษาฉะเพาะส่วนของโจทก์ จนกว่าจำเลยจะยึดที่ของคนอื่นขายได้เงินไม่พอใช้หนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ยอมให้เงินแก่จำเลยเปนราคารวมกัน ๑๐๗๖.๐๗ บาท แต่ครั้นแล้วจำเลยกลับยึดที่ของโจทก์ขายทอดตลาดไปด้วย โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเสียหาย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาตัดสินว่าเมื่อได้ตัดสินแล้วว่าจำเลยเปนฝ่ายผิดสัญญาแล้ว โจทก์ก็ย่อมได้รับความเสียหาย เพราะจำเลยรับเงินไปจากโจทก์ยังยึดที่ของโจทก์ขายทอดตลาดอีกโจทก์ไม่ได้รับประโยชน์อย่างใดจากการชำระเงินให้จำเลยเลยโจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกเงินที่ชำระให้จำเลยไปคืนได้ ฐานลาภมิควรได้ จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ให้จำเลยใช้เงิน ๑๐๗๖.๐๗ บาท ให้แก่โจทก์ทั้งสอง.

Share