คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาภายใน 1 เดือนภายหลังแถลงขอเสียค่าธรรมเนียมและนำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียแม้เป็นเวลาเกิน 1 เดือนนับแต่วันตัดสินก็ไม่ขาดอายุความอุทธรณ์และถ้าเจ้าพนักงานไม่ได้เรียกให้ปิกแสตมป์ค่าคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถานั้นก็ไม่ทำให้อุทธรณ์ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกเงิน ๒๘๐๐ บาท จากจำเลย ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงและคัดค้านว่าฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งจำเลยได้คัดค้านในคำแก้อุทธรณ์แล้วแต่ศาลอุทธรณ์หาได้วินิจฉัยให้ไม่
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ส่วนข้อคัดค้านในเรื่องอุทธรณ์นั้นฟังว่าเดิมโจทก์ยื่นอุทธรณ์พร้อมกับคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถาภายในกำหนดอายุความอุทธรณ์ต่อมาโจทก์แถลงว่าจะขอนำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียให้ครบใน ๗ วัน จำเลยไม่คัดค้านศาลอนุญาตและโจทก์ได้นำเงินมาเสียตามกำหนดแต่ทว่าเป็นเวลาเกินเดือนนับแต่วันฟังคำพิพากษา ศาลฎีกาเห็นว่า อุทธรณ์ไม่ขาดอายุความตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.๒๒๙ เพราะเป็นเรื่องขออุทธรณ์อย่างอนาถาตามมาตรา ๑๔๙ ส่วนคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาคามิได้ปิดแสตมป์ค่าคำร้องนั้นเป็นโดยความพลั้งเผลอของเจ้าพนักงานที่มิได้เรียกร้องให้โจทก์เสีย เพราะโจทก์ยอมเสียอยู่แล้ว หากไม่เรียกให้โจทก์เสียเอง จึงไม่เป็นเหตุให้อุทธรณ์ขาดอายุความ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share